บีบี คลินิก แนะนำ “ฝังเข็ม” ทางเลือกรักษา “ออฟฟิศ ซินโดรม”

บีบี คลินิก แนะนำ “ฝังเข็ม” ทางเลือกรักษา “ออฟฟิศ ซินโดรม”

 

ทราบหรือไม่ว่า…การนั่งทำงานในออฟฟิศ หรือห้องแอร์เย็นๆ ก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้เหมือนกัน มนุษย์ออฟฟิศที่ทุ่มเทแรงกายในการทำงาน จนเริ่มมีอาการปวดตามหลัง ไหล่ คอ ลามไปถึง อาการปวดศีรษะ ปวดตา อาการเหล่านี้อาจเป็นอาการของโรค “ออฟฟิศซินโดรม” ซึ่งถ้าไม่บำบัดรักษา หรือป้องกันตั้งแต่ต้น ก็อาจกลายเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพในภายหลังได้

บอสสาวคนเก่งแห่ง บีบี คลินิก “สินีนารถ เองตระกูล” เผยว่า “อาการออฟฟิศซินโดรม เป็นกลุ่มอาการที่พบบ่อยในคนที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ หากปล่อยไว้โดยไม่บำบัด หรือไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายตามมา ทางบีบี คลินิก ได้เล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพภายในควบคู่กับความสวยภายนอก จึงขยายการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด โดยการฝังเข็ม ซึ่งเป็นศาสตร์การรักษาโรคของจีนที่มีประวัติการค้นคว้าและแพร่หลายมายาวนาน เป็นวิธีการรักษาโรค ฟื้นฟูสุขภาพ สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ช่วยปรับสมดุลร่างกายให้อวัยวะและระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะด้านการระงับอาการเจ็บปวด จึงได้ถูกนำไปใช้ในการรักษาโรคปวดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ตอนนี้ เราได้เปิดตัวศูนย์การแพทย์ทางเลือกด้วยการฝังเข็ม โดยแพทย์แผนจีนที่รักษาโดยการใช้ศาสตร์การปรับสมดุล หยินหยาง เพื่อฟื้นฟูอวัยวะที่บกพร่อง ต้นเหตุของการเกิดโรคต่างๆ บีบี คลินิกเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง เป็นคลินิกศัลยกรรมความงามครบวงจร ฝังเข็มและแพทย์ทางเลือกที่ได้รับการรับรองจาก JCI (Joint Commission International) มาตรฐานการรักษาระดับสากลจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้ป่วยและผู้ใช้บริการได้รับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพทัดเทียมกับสถานพยาบาลในประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกาและมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด”

แพทย์จีนธีรธัชช์ ธนะมั่นคงพร้อม แนะนำว่า “การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการอยู่ในท่าเดิมนานๆ ติดกัน 1-2 ชั่วโมงขึ้นไปนั้น ทำให้เกิดการใช้งานที่มากเกินไปของกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ บ่า ไหล่ หลัง และอาจจะเกิดที่บริเวณอื่นๆ ของร่างกายร่วมด้วย โดยที่บริเวณที่ใช้งานมากเกินไปนั้น จะมีอาการ ตึง ยึด ปวด ชา ซึ่งในบริเวณที่มีอาการนี้มักจะเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อขึ้นบริเวณนั้น และทำให้เกิดจุดกดเจ็บขึ้น จนกลายเป็นอาการฮิต “ออฟฟิศ ซินโดรม” (Office Syndrome) ผู้เจ็บป่วยสามารถ 1. ยืดกล้ามเนื้อด้วยตัวเอง ด้วยการออกกำลังกาย เล่นโยคะ ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน ซึ่งจะได้ผลดีหากทำ

 

ต่อเนื่องเป็นประจำ 2. การนวด หรือ กดจุด บริเวณกล้ามเนื้อที่ปวด สามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตัว ลดอาการปวดเมื่อย ควรทำโดยแพทย์แผนไทย หรือแผนโบราณที่เชี่ยวชาญ ต้องระวังการกดบางตำแหน่งที่อันตรายเช่น บริเวณคอที่มีหลอดเลือดแดงใหญ่ หรือการเปิดประตูลม โดยการกดทับหลอดเลือดเป็นเวลานานเกินไป และ 3. หากอาการรุนแรงถึงขั้นขยับร่างกายลำบาก อาจต้องใช้เวชศาสตร์ฟื้นฟู หรือการฝังเข็มรักษาอาการปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่ ซึ่งเป็นวิธีรักษาที่เห็นผลดี เนื่องจากอาการปวดที่เกิดขึ้นมาจากการอยู่ท่าเดิมเป็นเวลานาน ทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก การฝังเข็มนอกจากจะช่วยกระตุ้นบริเวณที่เป็น ให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้นแล้ว ยังช่วยบำรุงให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ทำให้ลดอาการตึง ปวด สลายเลือดที่คั่ง หรือ ขับสารพิษสะสมในร่างกายจากมลภาวะต่างๆ ที่เจอในชีวิตประจำวัน ให้รู้สึกโล่งสบายขึ้นได้ นอกจากนี้ยังเป็นการรักษาที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงผลข้างเคียงจากการใช้ยาแก้ปวดเป็นเวลานานอีกด้วย

ซึ่งปัจจุบันศาสตร์การรักษาด้วยวิธีนี้ ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก ว่าสามารถรักษาโรคต่างๆได้ ทั้งโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ภูมิแพ้ อัมพฤกษ์ อัมพาต นอนไม่หลับ ไมเกรน อาการปวดประจำเดือน รวมไปถึงด้านความงาม ทั้งรักษาสิว ฝ้า ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ โดยรักษาร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบันได้อีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ป่วยหรือผู้ที่สนใจควรเลือกทำการรักษาที่สถานพยาบาลที่ผ่านมาตรฐาน JCI ซึ่งผู้รับบริการจะสามารถตรวจสอบและเช็คประวัติแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ได้ อีกทั้งมั่นใจได้ว่ามีระบบป้องกันการติดเชื้อที่ได้มาตรฐานสากล ระบบการรองรับภาวะฉุกเฉิน ระบบโครงสร้างความปลอดภัยทางกายภาพที่ถูกต้องตามมาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการดูแลรักษาตั้งแต่ผู้ป่วยเข้ามาในโรงพยาบาล จนกระทั่งสิ้นสุดการรักษา โดยคำนึงถึงสิทธิผู้ป่วย การให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคและอาการที่เป็น รวมถึงการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องเพื่อให้กระบวนการดูแลรักษาเกิดผลลัพธ์สูงสุดต่อผู้ป่วยอีกด้วย”

 

          ผู้ที่สนใจรับบริการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บีบี คลินิก สาขาสุขุมวิท 11 หรือ บีบี คลินิกทุกสาขา หรือคลิก http://bbbeautycenter.com, www.facebook.com/BBClinicOfficial และอินสตาแกรม : bbclinic

%d bloggers like this: