กำธร จิรทรานนท์ CEO หนุ่มวิสัยทัศน์ไกลแห่ง Seektour.com
กำธร จิรทรานนท์
CEO หนุ่มวิสัยทัศน์ไกลแห่ง Seektour.com
“ชีวิตคือการเดินทาง” เขาพูดถึงปรัชญาในการใช้ชีวิตของตัวเอง
เขาเดินทางทั้งเพื่อเรื่องงานและด้วยใจรักการท่องเที่ยวมามากมายหลายประเทศจนแทบนับไม่ถ้วน “การเดินทางทำให้เราได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ การเดินทางเปรียบเหมือนการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับชีวิต ถ้าผมมีชีวิตอยู่โดยปราศจากการเดินทาง ผมว่าชีวิตผมคงเหี่ยวและเฉาตาย” เขาเล่าอย่างอารมณ์ดี
“การได้เห็นรอยยิ้มจากการออกแบบเส้นทางใหม่ๆ และการครีเอตกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่และไม่ซ้ำใคร คือความสุขของผม” เขาเอ่ยถึงความสุขที่หาได้ง่ายๆแถมส่งประโยชน์ให้กับธุรกิจท่องเที่ยว “Seektour.com” ของตัวเอง
“ล่าสุด ผมเคยพาลูกค้าไปเที่ยวแบบส่วนตัวที่เกาะฮอกไกโด ลูกค้าอยากได้ประสบการณ์ไม่ซ้ำและภาพความทรงจำที่ดีๆ ผมเลยแนะนำให้แต่งชุดกิโมโน แล้วให้ช่างภาพเดินถ่ายเก็บภาพ street ไว้ เลยได้ภาพสวยๆ ในบรรยากาศเก๋ๆอีกแบบกลับไป ลูกค้าเค้าก็แฮปปี้มาก พอเห็นลูกค้ามีความสุข ผมก็มีความสุขครับ” คือบางช่วงของการสนทนากับ คุณกำธร จิรทรานนท์ (ปีเตอร์) ในบ่ายวันหนึ่ง ณ ห้อง GMT Lounge โรงแรมเอทัส ลุมพินี โดยเป็นแขกพิเศษของคุณลัทธพร จิตรวิเศษ พีอาร์สาวสวยของโรงแรม เอทัส ลุมพินี นั่นเอง
หนุ่มหน้าหยกวัย 40 ต้นๆ นาม กำธร จิรทรานนท์.หรือที่ชาวต่างชาติรู้จักมักจี่ และเรียกชื่อเขากันอย่างคุ้นลิ้น ว่า “ปีเตอร์” คนนี้
ทั้งดูหน้าตาและฟังชื่อเล่นแล้ว ราวกับว่าเขาไม่ใช่คนไทย แต่เปล่าเลย เขาคือคนไทย สัญชาติไทยแต็มร้อย เพียงแต่คุณแม่ของเขา คุณจันทรา จิรทรานนท์ สาวไทยเชื้อสายจีน ผู้เป็น เจ้าของ “จันทรา ทัวร์” ทัวร์ชื่อดังในอดีต ซึ่งถือว่าเป็นยุคบุกเบิกของคนจัดทัวร์ไปจีนในสมัยคุณป้า คุณย่าและคุณยาย ยังสาวๆนั่นเอง
ชีวิตเขาต้องเดินทางตั้งแต่วัยเด็ก
“ตอนอายุ 4 ขวบ ผมถูกคุณแม่ส่งไปอยู่ฮ่องกง” เขาเริ่มอารัมภบทถึงตัวเอง
เพราะถูกส่งไปใช้ชีวิตและเรียนหนังสือที่ฮ่องกงตั้งแต่อายุ 4 ขวบ นั่นเอง คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า “ชีวิตคือการเดินทาง” ที่สำคัญ ทำให้เขากลายเป็นเด็กที่มีโลกทัศน์ต่างและมีวิสัยทัศน์ไกล ไม่ค่อยจะคิดหรือเห็นอะไรเหมือนเด็กไทยทั่วไป
“แต่ตอน 6 ขวบ ผมถูกย้ายกลับมาเรียนที่ กรุงเทพฯ” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกชัดว่า ชีวิตต้องเดินทางอีกแล้ว
เขาเรียนที่โรงเรียนสวนกุหลาบ แล้วเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษาที่ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ( คณะมนุษยศาสตร์ สาขาศิลปาชีพ สาขาเอกท่องเที่ยว) เมื่อปี 2000
เริ่มต้นอาชีพในวงการท่องเที่ยวตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ปีสามของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ประสบการณ์และการศึกษา ทำให้เขาสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษาคือ จีน แมนดาริน จีนฮ่องกง อังกฤษ ญี่ปุ่น และไทย
“เพราะคุณแม่ทำธุรกิจทัวร์ ผม เลยซึมซับและได้เรียนรู้ธุรกิจนี้มาตลอด เพราะผมช่วยธุรกิจที่บ้านมาตั้งแต่เด็กๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องจองตั๋ว ทำรายการทัวร์ กระทั่งเป็นหัวหน้าทัวร์ ออกทัวร์ พาลูกทัวร์ไปยังประเทศต่างๆ เพราะผมสามารถพูดได้หลายภาษา”
เขาเป็นมัคคุเทศก์ พาลูกทัวร์เที่ยวในประเทศ สลับกับเป็นหัวหน้าทัวร์ออกทัวร์ไปยังประเทศต่างๆ ตั้งแต่ก่อนเรียนจบ
“ผมเคยทำงานเป็นล่าม อยู่ประเทศไต้หวัน (ปี 2005)และเดินทางเรียนต่อที่ Orange Coast College สาขา Jewelry Design ณ แคลิฟอร์เนีย …สหรัฐอเมริกา ช่วงนั้น เขาเลยได้เดินทางไปยังรัฐต่างๆของอเมริกา
เขาเคยทำงาน ที่ LSI ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนภาษายอดนิยมที่แอลเอ) ที่นั่นทำให้เขากวาดประสบการณ์มาเพียบ ตั้งแต่ทำงานร้านอาหารไทย เป็นผู้จัดการร้านอาหาร เป็นหุ้นส่วนร้านอาหารไทย
พอปี2010 เดินทางกลับมาปรเทศไทย เริ่มต้นทำทัวร์ เที่ยวต่างประเทศจริงจัง
ปี2012 เรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ได้เจอกับหุ้นส่วน คือคุณวนัสรา วงษ์สมุทร (โนบิตะ)
(บน)กำธร จิรทรานนท์ และ วนัสรา วงษ์สมุทร สองCEOหนุ่ม แห่ง Seektour.com
ปี 2013 กลับมาบุกเบิกนำเที่ยวเส้นทางญี่ปุ่นจริงจัง
ปี2014 ก่อตั้งบริษัททัวร์ลูกเป็ด กับหุ้นส่วน
และ ปี2018 ก่อตั้งบริษัท SeekTour ที่เปลี่ยนโฉม (rebrand) มาเป็น Seektour.com ในวันนี้
งานเปิดตัว Seektour.com ณ อาคาร G ทาวเวอร์
ทำไมถึงกล้าสวนกระแส ลงทุนทำธุรกิจทั้งที่คนอื่นไม่ค่อยกล้าทำอะไรในยุคที่อุณหภูมิเศรษฐกิจดิ่งเหวแบบนี้
“ผมมองเห็นแนวโน้มพฤติกรรมของคนชอบท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นทั้งใน ประเทศไทย หรือทั่วโลก ว่า มันเปลี่ยน ส่วนใหญ่พวกเขาจะใช้อินเตอรเน็ตหรือ มือถือเพื่อค้นหาแพ็กเกจหรือเส้นทางท่องเที่ยว ผมเลยคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยน จึงรีบลงมือทำ เพราะทุกวันนี้ ผู้บริโภคจะใช้ไอทีในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปเรื่อยๆ ซื้อของออนไลน์ จองตั๋ว จองทัวร์ในออนไลน์ และ ฯลฯ เราเลยต้องรีบลงมือทำตรงนี้เพื่อตอบโจทย์ ของผู้บริโภคทัวร์ ผมถือว่า เราเริ่มก่อน เราก็จะได้เปรียบก่อน ถึง แม้ว่าเราไม่ทำตอนนี้ แต่วันนึง เราต้องทำ เพื่อจะให้คนซื้อทัวร์ได้เจอกับคนขายทัวร์โดยตรง เป็นแพลตฟอร์มที่ผมภูมิใจมาก เพราะมันเป็นของคนไทยที่ไม่ใช่ของชาวต่างชาติอย่างแบรนด์อื่นๆเช่น Agoda ของสิงคโปร์ หรือ Traveloka ของอินโดนีเซีย”
วางเป้าหมายของ Seektour (ซีคทัวร์) ไว้ว่า
“เราตั้งใจจะให้ ซีคทัวร์ เป็นแพลตฟอร์มระดับโลก อยากให้ทุกคนรู้จัก ซีคทัวร์ อยากให้ทุกคนที่จะไปท่องเที่ยวในแพ็กเกจต่างๆได้เข้ามาค้นหาแพ็กเกจทัวร์ที่เขาต้องการได้จาก ซีคทัวร์ ในความต้องการของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจต่างๆ หรือจุดหมายปลายทางที่อยากไป บริษัทจัดทัวร์ต่างๆที่เราชื่นชอบ
หรือที่ ซีคทัวร์ อยากจะแนะนำและเชื่อถือได้ รวมไปถึงบริการต่างๆที่จะได้รับจาก ซีคทัวร์ด้วย เช่นเรื่องประกันภัย เรื่องของตั๋วต่างๆ หรือโปรโมชั่นต่างๆ”
จุดยืนหรือจุดเด่นที่แตกต่างของ ซีคทัวร์
“จุดยืนหรือจุดเด่นของเราก็นี่เลยครับ เราต้องการให้คนซื้อและคนขายได้มาเจอกัน ตัดตอนตัวกลาง และเราก็สามารถใช้เรื่องของคุณภาพเป็นตัวชี้วัดให้กับทั้ง2 ฝ่าย ทุกวันนี้ธุรกิจทัวร์จะเป็นการแข่งขันกันเรื่องราคาอย่างเดียว แต่ ซีคทัวร์ เราต้องการเปลี่ยนจากสงครามราคา มาเป็น สงครามคุณภาพ นี่คือจุดยืนของซีคทัวร์ครับ”
เน้น Destination ที่ไหนบ้าง
“จริงๆแล้ว ซีคทัวร์ก็เหมือนตลาดนัด ใครเค้าอยากเอาทัวร์อะไรมาขาย มาเช็คอินดูกันได้ที่นี่เลย แต่ว่าเราจะเน้นเส้นทางไหนเป็นพิเศษมั้ย เบื้องต้นก็จะเป็นเส้นทางยอดนิยม เช่นญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไต้หวัน ไปง่ายๆ ไม่ต้องใช้วีซ่า ประเทศเหล่านี้เขาสามารถตัดสินใจไปได้เลย ซื้อตั๋ว จองปุ๊บ ไปได้เลย ไม่ต้องใช้วีซ่า ง่าย และสะดวกสำหรับผู้บริโภค และลำดับต่อไป เราจะมุ่งไปในเส้นทางแปลกๆ ใหม่ๆ เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีการคิดสร้างสรรค์ขึ้นมา เพราะคนชอบเที่ยว เค้าคงไม่อยากไปซ้ำที่เดิมๆ คนที่เที่ยวตอนนี้เค้าจะหาเส้นทางแปลกๆ อย่างวันก่อนเจอลูกค้า เราเสนอรัสเซียให้เค้า ค้าบอกว่า อุ๊ย รัสเซียเค้าเคยไปบ่อยๆ แต่ถ้ามีโปรแกรมใหม่ๆเช่นมีการ ยิงกระสวยอวกาศ และไปดูฐานยิงกระสวยอย่างนี้ เค้าจะไป อะไร ประมาณนี้ครับ คนทำทัวร์หรือ Tour Maker สมัยนี้นะครับ มันไม่มีอะไรที่เป็นความลับอีกแล้ว ถ้าลูกค้าต้องการอะไร เราสามารถสร้างสรรค์ขึ้นรองรับได้หมด ต่อไปลูกค้าจะได้เห็นโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่ๆอีกเยอะ ในซีคทัวร์ดอทคอม”
Aim หรือเป้าหมายสุดยอดของ ซีคทัวร์
“เป้าหมายสุดของเราก็คือ หลังจากที่เราประสบความสำเร็จในบ้านเราแล้ว เราก็อยากจะขยายกิจการโดยไปเปิดในต่างประเทศ โดยเริ่มที่ประเทศเพื่อนบ้านของเราเช่น ลาว พม่า มาเลเซีย ก่อน ให้เพื่อนบ้านเราได้ใช้บริการ เป้าหมายต่อไปที่เราตั้งใจไว้ที่น่าจะใกล้เคียงที่สุดคือ เราต้องการไปให้ถึงตลาดจีนและอินเดีย เพราะจีนและอินเดียมีประชากรมาก เป็นประเทศที่มีตลาดใหญ่มาก โดยเฉพาะจีน ภาษาอังกฤษเค้ายังไม่แข็ง เราสามารถสร้างแพลตฟอร์มที่สามารถให้เขาเข้าใจและให้เขาเลือกใช้บริการของเรา”
บทบาท หน้าที่ และภารกิจ ที่รับผิดชอบ
“ผมโชคดีที่มีพาร์ตเนอร์ผู้รู้ใจ เขาคือคุณโนบิตะหรือคุณต๊ะ -วนัสรา วงษ์สมุทร ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลด้านโปรเจค มาเนเจอร์ คุณต๊ะเค้าเก่งและถนัดเรื่องไอที ผมจึงไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ส่วนตัวผม จะดูแลหลังบ้านครับ (หัวเราะเสียงสดใส) หลังบ้านก็คือเรื่องของทัวร์ ในฐานะที่ผมเคยทำทัวร์มาก่อน เลยจะถนัดเรื่องทำทัวร์ โปรแกรมทัวร์ต่างๆที่จะนำเสนอ รวมทั้งคิดค้น Route หรือเส้นทางทัวร์ใหม่ๆที่น่าสนใจ เป็นหน้าที่ของผมเอง กระทั่งมีหน้าที่หาทุนหรือหาพันธมิตรมาร่วมลงทุน รวมไปถึง เรื่องการตลาดด้วย ก็ต้องดูครับ การทำงานหลายๆส่วนที่มาซัพพอร์ตกัน หน้าที่ของคนที่เป็น “หลังบ้าน” ถ้าไม่แน่น น่าจะอันตรายนะครับ เพราะถ้าหลังบ้านไม่แน่น เราก็คงจะออกมาเป็นหน้าบ้านไม่ได้ ผมเชื่อว่า หน้าบ้านที่ดีจะต้องออกมาจากหลังบ้านที่ดีครับ
24 ชั่วโมงของCEO หนุ่มคนนี้
“เราเพิ่งเปิดตัว ซีคทัวร์ ได้ไม่นาน ซีคทัวร์ ก็เลยเปรียบเหมือนลูกเบบี๋ของเรา ในตอนนี้ เค้าต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างดีและเต็มที่จากเรา ซึ่งผมก็ถือว่าโชคดีที่ยังเป็นโสด ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังกับเรื่องครอบครัว มีเพียงคุณแม่ที่ต้องดูแล ผมจึงมีเวลาทุ่มเทให้กับลูกเบบี๋คนนี้อย่างเต็มที่ เพียงแต่ด้วยหน้าที่ ที่ทำให้ผมต้องเดินทางบ่อยมาก แต่ ซีคทัวร์ เราทำงานกันเป็นทีมครับ การทำงานจึงง่าย ต่อให้ผมอยู่ที่ไหน ก็สามารถทำงานได้ตลอด นี่ ผมก็เพิ่งกลับมาจากดูไบ ไปเรื่องงานเลยถือโอกาสเที่ยว และเซอร์เวย์ ดูเส้นทางใหม่ๆเพื่อมาเป็นข้อมูลสำหรับธุรกิจทัวร์ของเรา”
เส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล เราคงจะได้เห็นเรื่องราวใหม่ๆของ “ซีคทัวร์ดอทคอม” ภายใต้การกุมบังเหียนของCEO หนุ่มคนนี้อย่างแน่นอน