พอชช์- กิตติศักดิ์ กันดิศาคุณานนท์ กับโชคในคราวเคราะห์
เรื่องคราวเคราะห์ของ พอซซ์ – กิตติศักดิ์ กันดิศาคุณานนท์ เกือบไม่ได้เห็นสิ่งที่ชอบเป็นชีวิตจิตใจไปเสียแล้ว
พอซซ์ – กิตติศักดิ์ นอกจากจะมีความเป็นเลิศ ในออกแบบและผลิตอัญมณีที่มีเอกลักษณ์ดีไซน์ exotic สะกดทุกสายตา โดยเน้นว่าชิ้นงานต้องสวยทุกมิติ นอจากนี้ยังออกแบบเหลี่ยมเจียระไนแฟนซีพลอย เพชร อัญมณีต่างๆอีกด้วยเพื่อให้ได้พลอยที่มีเนื้อใสไม่มีตำหนิมีประกายเล่นไฟระยิบระยับสวยงามยิ่งขึ้นไป
ทุกวันนี้เพื่อนๆ ยังนำวัตถุมงคลของบูชาที่เคารพมาให้เขาช่วย “แอดแวลลู” โดยการประดับประดาอัญมณีเข้าไปเพื่อเพิ่มคุณค่าและราคาให้เริ่ดหรูและแพงระยับเข้่ไปอีกหลายเท่าตัว
แถมยังเพิ่มโชคลาภและวาสนาอีกด้วย เพราะตั้งแต่นำมาประดับด้วยอัญมณีเข่น ทับทิมสยาม ในวัตถุมงคลแล้ว ทำให้ชีวิตสุดปังและเฟื่อหูงมาก ธุรกิจรุ่งโรจน์โชติช่วงฉุดไม่อยู่
ผลงานชิ้นแรกสุดคือ “กวนอูประทับหลังมังกร และประดับเครื่องทรงทับทิม” ทุกวันนี้มีตั้งแต่องค์พระพุทธรูป พระพิฆเนศ พระนารายณ์ทรงอนันตนาคราช พระศรีมหาลักษณี และทำต้นไม้ดอกไม้อัญมณีและเพชรจัดช่อในเครื่องลายคราม
โดยมีแรงบันดาลใจว่า เมื่อเคารพศรัทธาสิ่งใดแล้วย่อมต้องประกอบแต่สิ่งดีงาม ทั้งทางกาย วาจา และใจ รวมไปถึงเรื่องการถวายของ ก็ต้องถวายด้วยของบูชาชั้นเลิศต่อสิ่งที่เราเคารพบูชาสูงสุด
เมื่อปลายปี 2567 พอซซ์ ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพถวายอัญมณีแด่พระศาสนาร่วมกับประธานกฐิน คือคุณมงกุฎ สิงหนันท์ และญาติธรรมทางพุทธสถานศรีมหาโพธิ์เรือนไทยสมบูรณ์ธรรม จ.ฉะเชิงเทรา ในการสร้างศาลาโรงทาน 7 ขุมทรัพย์แด่ผู้มาปฏิบัติธรรม ซึ่งอัญมณีที่ถวายนั้นเป็นทับทิมสยาม(บ่อแร่)มรกตโคลอมเบีย บุษราคัม ไพลิน ฯลฯ ที่เจ้าตัวสะสมไว้เองมาจากต่างกาลต่างวาระ ที่สำคัญคือแต่ละเม็ดสีสด เนื้อสะอาด ปราศจากการปรับปรุงคุณภาพใดๆ ยังมีเพชรดำเจียระไนรูปดาว และเพชร old mine cut เหลี่ยมลูกโลกด้วย
เจ้าตัวคิดว่าเกิดมาได้มีโอกาสครอบครองแล้วก็ย่อมที่จะต้องทำทานด้วยเมื่อมีโอกาส ซึ่งในวันงานที่พิธีมีเจ้าภาพอีกท่านคือคุณชัยพล สมบูรณ์ ก็ได้ร่วมบริจาคที่ดิน 30ไร่ และเงินสดอีก 1 ล้านบาท ญาติธรรมที่มาอิ่มบุญกันถ้วนหน้า กิตติศักดิ์เห็นรอบบึงที่จะจัดสร้างศาลาโรงทานและรอบลานเดินจงกรมยังว่างอยู่ จึงสั่งบัวจงกลนี สายพันธุ์หายากที่มีหลักฐานปรากฏในไตรภูมิพระร่วง เป็นสายพันธุ์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงอนุรักษ์ไว้ โดยเขาได้สั่งจากฟาร์มบัวมาปลูกถวายเป็นพุทธบูชาเพื่อให้ผู้มาปฏิบัติธรรมได้เห็นดอกบัวที่สวยงาม เป็นตัวแทนของการตื่นรู้ตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า เรื่องทำบุญเพื่อนๆ บอกว่า พอซซ์ -กิตติศักดิ์ เป็นเสือปืนไวยิ่งกว่าดาราฮอลลีวูดอย่าง คลิ้นท์ อีสต์วู้ด ซะอีก!
ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจาถึงคราวเคราะห์ เพราะได้ประสบอุบัติเหตุโดนน้ำยาล้างพื้นห้องน้ำที่แม่บ้านเลินเล่อ ทำกระเซ็นเข้าตาทั้งสองข้าง พอซซ์-กิตติศักดิ์ รีบล้างตาในทันทีแล้วรีบพุ่งมาที่โรงพยาบาลนครธน เพื่อรับการรักษา
ซี่งทางทีมแพทย์ได้รีบส่งเข้าศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน ทำการล้างตาให้ข้างละ 2,000 ลิตรเนื่องจากน้ำยาทำความสะอาดพื้นมีฤทธิ์กัดกร่อนเฉพาะที่รุนแรงมาก หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเร่งด่วน จะสามารถทำให้ตาบอดได้
หลังจากล้างตาเรียบร้อยแล้ว ผลปรากฏว่ากระจกตาถลอก ม่านตาและ เยื่อบุตาอักเสบ ซึ่งมีผลต่อการมองเห็นเป็นอย่างมาก ทางศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉินจึงรีบประสานไปยังผู้บริหารเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
โดย คุณปิยะเดช ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานสารสนเทศและพัฒนาประสิทธิภาพองค์กร ได้ผนวกกำลังกับ พญ.ศิเรมอร ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานแพทย์รพ.นครธน ได้เลือกจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ดูแลรักษา หยอดตาทุก 2 ชม. และงดใช้สายตาเพราะต้องหลับให้ตาเยื่อบุตาได้สมานตัวด้วยเอง
ซี่งใน 7 วันแรกเจ้าตัวยังกังวลมากเพราะมีผลต่อการมองเห็น น้ำตาไหลและแสบตา แต่ก็นอนทั้งวันเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือน พอมาสัปดาห์ที่สองเริ่มเห็นลางๆแต่ไม่ชัดมาก เมื่อลองอ่านหนังสือยังคงน้ำตาไหลและตาสู้แสงไม่ได้ ต้องสวมแว่นตากันแดดจึงตัดสินใจนอนต่อและหยอดตาต่อเนื่อง ซี่งก็พอดีใจขึ้นมาบ้างที่เริ่มเห็นขึ้นมาบ้างแต่เวลาดูโทรทัศน์ถึงอยู่ห่างก็ต้องใส่แว่น เพราะหากไม่ใส่จะน้ำตาไหลและเวียนศีรษะมาก อาการก็เริ่มดีขี้นเป็นระยะ แต่ก็ส่งปัญหาเรื่องการอ่านหนังสือคือไม่สามารถเพ่งได้ ซึ่งกิตติศักดิ์ต้องใช้ตาเพ่งแน่นอนเพราะส่องเพชรและพลอยเป็นชีวิตจิตใจ ก็เป็นกังวลเรื่องการมองเห็นเป็นอย่างมาก
ในระหว่างรักษา พอซซ์ ไม่อนุญาตให้ดวงตาทำอะไรเลย เพราะกลัวตาบอด เขาถนอมเวงตาอย่างยิ่งยวด วันดีคืนดีมีสัญญาณว่าใกล้หายดีแล้ว เริ่มเห็นโทรทัศน์ชัดขึ้น ก็หยิบไอโฟนขึ้นมาไล่ตอบไลน์เพื่อนๆ แต่ใช้สายตาได้แค่ 5 นาที ก็จะมีอาการน้ำตาเริ่มไหลและเวียนศีรษะ ต้องหยุดใช้สายตาทันที
หลังหยุดยาและหยอดแต่น้ำตาเทียม ถัดมาอีกวัน ตกเย็นมีอาการตาบวมขึ้นมาใหม่ จึงรีบมาตรวจนอกเวลาที่ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน ได้ตรวจโดย นพ.กีรติ กีรติพงศ์พันธุ์ ดูแลอย่างดี ตรวจตาอย่างละเอียดอีกครั้ง ปรากฏว่าเยื่อบุตายังคงอักเสบอยู่ แต่ไม่อันตรายมากแล้ว คุณหมอบอกว่าให้สบายใจได้ และได้จ่ายยาหยอดเพิ่มให้หยอดทุก 4 ชั่วโมง และให้งดใช้สายตาอีกสัก 1 สัปดาห์ จนกว่าจะเริ่มอ่านหนังสือแล้วไม่ปวดศีรษะจึงจะบอกว่าปกติได้ เพราะว่าสายตาไม่ปรากฏรอยโรคภายนอกเป็นการรับรู้ของคนไข้ที่จะบอกว่าปกติหรือไม่ คนไข้ย่อมรู้อาการดีกว่าแพทย์ เรามาตรวจกับแพทย์ใช้เวลากับแพทย์ช่วงหนึ่งหลังจากแพทย์กลับแล้วเราอยู่กับตัวเรา เราถือเป็นแพทย์ของตัวเราเองแล้ว อะไรที่เป็นอันตราย เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เพราะตาคู่นี้ต้องอยู่กับเราอีกนานจนขั่วอายุขัย
งานนี้ พอซซ์ บอกกับตัวเองและเพื่อนๆว่า ในเรื่องร้ายยังมีดี เพราะตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลนคนธน ตนได้ใช้ชีวิต slow life ฝีกสติ หลับตา เจริญสมาธิ กายนี้ไม่ใช่เรา ตานี้ไม่ใช่เรา เจ็บตาเกิดขึ้นแปรปรวนในท่ามกลางเดี๋ยวก็ดับในที่สุด จากที่ทำสมาธิเป็นปกติอยู่แล้ว ก็ได้ฝึกปล่อยวางและคิดว่ายังไงก็ต้องกลับมาเห็นชัดเจนอีกครั้งแน่นอน
วันสุดท้ายที่ตรวจตาอีกครั้ง จักษุแพทย์ส่องกล้องตรวจละเอียด วัดค่าสายตา ความดันตา ย้อมเซลล์ ฯลฯ แพทย์ของโรงพยาบาลนครธน แจ้ง ว่า
“โอเค สบายใจได้เลย แผลหายสนิทแล้ว เก่งนะครับ ตาไม่มีปัญหาเกี่ยวกับสายตาอะไรเลย หายากมากๆ ถ้าเทียบในวัยเดียวกัน ส่วนใหญ่สายตาจะสั้นแต่เด็ก ไม่สั้นก็เอียง”
ทุกวันนี้ คุณพอซซ์ สามารถมองเห็นได้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ก่อนออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้าน พยาบาลที่ดูแลทั้งศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน ศูนย์จักษุ ศูนย์ผิวหนังที่ดูแล บอกว่าได้แอบส่องผิวของคุณพอซซ์- กิตติศักดิ์ตลอดเลย และยังชมว่าคุณพอซซ์ผิวสวยมาก ผิวใสไม่มีรอยกระดำกระด่างแบะริ้วรอยเลย พวกหนูเป็นผู้หญิงยังสู้ไม่ได้เลยค้า”
เมื่อเพื่อนๆ ถามถึงแม่บ้านคนที่ทำเธอสาหัสขนาดนี้ จะปล่อยเขาไปหรืออย่างไร พอซซ์ ก็ตอบสั้นๆว่า “ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ทำบุญมาตั้งเยอะแยะให้อโหสิกรรมกันไป จะได้ไม่ต่อเวรต่อกรรม อีกอย่างตาเราก็เห็นเป็นปกติแล้ว เป็นคนไม่อยากได้อะไรจากใครอยู่แล้ว เธอก็รู้นิสัย Soleaves she alone.“ เพื่อนสนิทที่มาเยี่ยมก็บอกว่าคนอะไรว่างก็ไม่ค่อยจะตรงกับคนอื่นๆ ฉะนั้นเจอกันแต่ละทีขอแบบไม่ต้องพบหมอก่อนมาเจอกันได้ไหม ขอแบบปกติๆ เพราะแต่ละครั้งที่เจอเพื่อนๆ ไม่ใครคนใดคนหนึ่งต้องผ่าตัดต้องอะไรก่อน มีแปะแผลถึงได้ค่อยมาเจอกัน นั่งทานข้าว เจอกันแบบปกตินี่หาโอกาสยากมาก ไหนจะลูก ไหนจะภรรยา แถมหัวเราะกันสนุกสนานเป็น joke conversation กัน แต่เพื่อนก็เข้าใจว่างานกิตติศักดิ์รายละเอียดการทำงานค่อนข้างประณีตผิดที่แก้ยาว ทำใหม่ยังง่ายกว่ารื้อเพชรรื้อพลอยออกมาซ่อมตัวเรือน
อยู่โรงพยาบาลยาวหนนี้ พอซซ์-กิตติศักดิ์ ขอชื่นชมทีมผู้บริหาร รพ.นครธน ที่คัดสรรบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลชำนาญงานผู้เชี่ยวชาญ ทั้งศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน ศูนย์จักษุ ศูนย์ผิวหนัง ที่สามารถรักษาอุบัติเหตุร้ายแรงจากน้ำยาทำความสะอาดพื้นเข้าตา จนกลับมามองเห็นเป็นปกติได้อีกครั้ง ซึ่งจากประสบกรรม เอ๊ย, ประสบการณ์ในครั้งนี้ ถือว่า
โรงพยาบาลนครธน ดูแลคนไข้ดุจญาติมิตรจริงๆ!
