เปิดตัว 2 บอสหนุ่มไฟแรงแห่ง Good Day Good Time คุณไอซ์-รัชสิทธิ์ มั่นคงธนทรัพย์ และ คุณโอม-ภควัต แสงอรุณฉาย
(บนซ้าย) คุณไอซ์-รัชสิทธิ์ มั่นคงธนทรัพย์ และ คุณโอม-ภควัต แสงอรุณฉาย (ขวา)
เปิดตัว 2 บอสหนุ่มไฟแรงแห่ง Good Day Good Time
คุณไอซ์-รัชสิทธิ์ มั่นคงธนทรัพย์ และ คุณโอม-ภควัต แสงอรุณฉาย
ผันความชอบสู่ธุรกิจชานมไข่มุกแบบชงสดจากไต้หวัน
สืบเนื่องมาจากกระแสฮ็อตของธุรกิจ “ชานมไข่มุก” ที่มาแรงจนต้องหันมามอง ประกอบกับความชื่นชอบและหลงใหลในการดื่มชาของตัวเอง อีกทั้งยังเห็นว่าตลาดชานมไข่มุกเป็นตลาดใหญ่และเป็นเจ้าของเม็ดเงินมหาศาล (เมื่อปี 2017 มูลค่าราว 2,000 ล้านบาท -ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจกสิกรไทย) ขณะที่ผลวิจัยของบริษัท Allied Analytics (บริษัทที่ปรึกษาวิจัยด้านการตลาด) เผยว่ามูลค่าตลาดชานมไข่มุกทั่วโลกอยู่ที่ 1,954 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 65,000 ล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2023 จะมีมูลค่า 3,214 ล้านเหรียญ หรือราว 100,000 ล้านบาท
ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ คือแรงบันดาลใจทำให้สอง MD หนุ่มไฟแรงแห่งบริษัท Focus On Tea คือ คุณไอซ์-รัชสิทธิ์ มั่นคงธนทรัพย์ (บน-ขวา) และ คุณโอม-ภควัต แสงอรุณฉาย (บน-ซ้าย) ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่ ม.อัสสัมชัญได้ตัดสินใจกอดคอจับมือกันเปิดร้านชานมไข่มุกแบบชงสด ชื่อว่า “Good Day Good Time” หรือในชื่อจีนว่า “เหลียงเฉิน จี๋ฉื่อ”แปลเป็นไทยได้ว่า “ฤกษ์งาม-ยามดี” ซึ่งเป็นแฟรนไชส์จากไต้หวัน และเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวในเมืองไทย ที่แฟนคลับหลายท่านรู้จักกันดี โดยร้าน Good Day Good Time สาขาแรกยึดหัวหาดอยู่ที่ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ชั้น 1 โซนประตูหน้าทางเข้าห้าง และสาขาที่ 2 ที่ ไอคอน สยาม ชั้น 6 โซนหน้าโรงภาพยนต์ ซึ่งได้ฤกษ์เปิดแบบ Soft Opening ไปแล้วหมาดๆ เมื่อเร็วๆนี้
จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจ
คุณไอซ์-รัชสิทธิ์ มั่นคงธนทรัพย์ (บน) เล่าว่า “ปกติผมเป็นคนชอบดื่มกาแฟ ส่วนคุณโอมเค้าชอบดื่มชา สมัยเรียนจบใหม่ๆ เราสองคน ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง วันนึงเราก็ได้มาเจอกัน และคิดกันว่าอยากทำอะไรร่วมกัน อยากมีธุรกิจอะไรสักอย่างเป็นของตัวเอง ช่วงที่กำลังคิดว่าจะทำอะไรกันนั้น ซึ่งก็คือปลายปีที่แล้ว เทร็นด์ชานมไข่มุกมันกำลังมาแรงพอดี เราทั้งคู่ก็ชอบดื่มชากาแฟกันอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่เรารู้ว่าธุรกิจนี้ การแข่งขันทางการตลาดมันเดือดมาก เนื่องจากว่ามันกำลังบูม ใครต่อใครก็เปิดร้านกันใหญ่ เรามองว่ามันท้าทายนะ แต่มันก็เป็นธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่เราชอบ เราก็เลยตัดสินใจทำเลย ทำในสิ่งที่เราชอบ จึงเป็นที่มาของร้าน “Good Day Good Time”
คุณโอม-ภควัต แสงอรุณฉาย (บน) เผยถึงเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาของร้านว่า “Good Day Good Time เป็นแบรนด์ ชานมไข่มุกแบบชงสด ต้นตำรับจากไต้หวัน ของคุณนัตโตะ ดาราตลกชื่อดังของไต้หวัน เขามีความฝันที่จะเปิดร้านเครื่องดื่มมาโดยตลอด จนวันหนึ่งในปี 2560 ตัวเขา เพื่อนๆ และทีมงาน จึงได้รวมตัวกันเพื่อเปิดร้านเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ ชื่อ เหลียงเฉิน จี๋ฉื่อ ซึ่งในความหมายของภาษาจีน แปลได้ว่า “ฤกษ์งาม-ยามดี” เป็นคำสองคำที่มีความหมายดีดีมารวมกัน และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ง่ายขึ้นในภาษาอังกฤษ จึงกลายมาเป็นชื่อว่า “Good Day Good Time” นั่นเอง มันเป็นแบรนด์คุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่กำลังได้รับความนิยมมาก เพราะปัจจุบัน “Good Day Good Time Tea มีทั้งหมด 46 สาขาในประเทศไต้หวัน และเริ่มขยายไปในต่างประเทศ คือมาเก๊า 3 สาขา, กวางเจา 3 สาขา, ซีอาน 2 สาขา และฝอซาน 1 สาขา เราจึงเลือกแบรนด์นี้มาเมืองไทย ซึ่งเราเดินทางไปเจรจาขอซื้อแฟรนไชส์และได้ลิขสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในเมืองไทยอีกด้วย ทุกวันนี้แบรนด์ Good Day Good Time จึงมีสาขาทั้งในไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ มาเก๊า แคนาดา ประเทศไทย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย”
กลุ่มเป้าหมาย
คุณไอ๊ซ์เผยว่า “ลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายจริงๆของ Good Day Good Time คือวัยรุ่น (ทีนเอจเจอร์) และคนทำงานครับ นั่นคือเหตุผลที่ราคาของเราจะอยู่ตรงกลางคือไม่สูงเกินไป และไม่ดร็อปมาก อยู่กลางๆเพื่อให้ลูกค้าวันทีนเอจเจอร์และคนทำงานเฟิร์สจ๊อบสัมผัสได้”
“ยกตัวอย่างเช่นเมนูขายดีอย่าง บราวน์ชูการ์เราขาย แก้วละ 95 บาท ขณะที่ของแบรนด์อื่นเขาจะขายราคา 100 กว่า แต่การลดราคา ไม่ได้หมายความว่าเราจะลดคุณภาพนะครับ เรื่องคุณภาพ และรสชาติ ทุกอย่างยังอยู่ในสแตนดาร์ดเดิม เหมือนเดิม เราแค่ลดราคาลงนิดหนึ่งเพื่อต้องการให้ลูกค้าซึ่งเป็นวัยรุ่นและคนที่เพิ่งเริ่มทำงานสามารถสัมผัสได้ และรู้สึกแฮปปี้กับราคาที่เขาต้องควักตังค์จ่าย ช่วงนี้ ร้านเรากำลังมีราคาโปรโมชั่นครับ และถ้าหมดโปรฯนี้ ก็จะมีโปรฯใหม่มาเรื่อยๆ เพราะราคาของเรา จะเซตไว้เพื่อรองรับลูกค้าทีนเอจเจอร์และคนทำงานแบบเฟิร์สจ๊อบ”
สไตล์และรูปแบบของร้าน
คุณโอซ์บอกว่า “คอนเซ็ปต์ของ Good Day Good Time ไม่ใช่สไตล์คาเฟ่ (Café) ที่ให้ลูกค้ามานั่งดื่ม แต่สไตล์ของเราคือ คิออส (Kios) ลูกค้าซื้อแล้วเทคอะเวย์ แต่เราก็มีที่นั่ง สำหรับลูกค้าบางคนที่อยากจะนั่งแป๊บๆ หรือนั่งรอเพื่อน”
จุดเด่นที่แตกต่าง
คุณโอมซึ่งเป็นหนุ่มที่พิสมัยการดื่มชาเป็นที่สุด เผยถึงจุดเด่นที่แตกต่างของ Good Day Good Time ว่า “อันดับแรกคือรสชาติครับ รสชาติละเมียดและกลิ่นหอมละมุนจากความสดที่ปลายลิ้นสัมผัสได้ เนื่องจากสูตรของเราเป็นชานมไข่มุกแบบชงสด และที่สำคัญ วัตถุดิบของเรา ตั้งแต่ใบชา นมสด น้ำตาลทรายแดง ฯลฯ ของเรานำเข้าจากไต้หวันหมดเลย ชาก็เป็นใบชา ไม่ใช่ชาผง ความสดของวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมจากไต้หวัน จะทำให้รสชาติและกลิ่นของชาทุกแก้วของเราเป็นอะไรที่เพอร์เฟคต์”
คุณไอ๊ซ์เสริมว่า “การชงชาของเราก็ไม่ธรรมดาครับ บาริสต้าแต่ละคนของเรา ล้วนแต่ได้รับการเทรนมาอย่างดีเยี่ยมจนเชี่ยวชาญ ชาแต่ละแก้วจะใช้ความประณีตและพิถีพิถันในการชง การมิกซ์หรือผสมผสานของวัตถุดิบในแต่ละแก้วก็จะมีจุดเด่นและลูกเล่นที่ไม่เหมือนกัน ที่ร้าน เรามีหลายเมนู แต่ละเมนู แต่ละแก้ว มันจะมียูนีคของมัน แต่ละแก้ว บาริสต้า จะมีลูกเล่นและบรรจงตกแต่งไม่เหมือนกัน อย่าง บราวน์ชูการ์ เมนูขายดีที่กำลังเป็นที่นิยมของเรา เราไม่กล้าเคลม แต่เรากล้าบอกได้ว่า ของเราติดอยู่ในอันดับต้นๆของร้านชานมไข่มุกยอดนิยม เพราะเรามีทีมงานที่ไต้หวัน ซึ่งจะทำการ research อยู่ตลอดเวลา ว่า อะไรมาแรง เทร็นด์ไหนมาใหม่ เราก็จะเล่นเลย เราจะไม่ตกเทร็นด์ ทีมงานของเราทุกคนต้องชงชาเป็นหมด และทุกคนต้องเข้ารับการเทรนนิ่งในหลักสูตรการชงชาของเราหมด เราจะส่งหัวหน้าทีม ไปเทรนโดยตรงกับต้นตำรับที่ไต้หวันก่อน และหัวหน้าจะมาเทรนลูกน้องอีกที แต่บางที อย่างวันนี้ ทางไต้หวัน ก็ส่งเทรนเนอร์มาเทรนให้ทีมบาริสต้าของเราที่นี่เลย”
เป้าหมายในอนาคต
คุณไอ๊ซ์ เผยว่า “เราวางแผนไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้ เราจะเปิดร้านอีก 3 สาขาให้ครบ 5 สาขา และให้เป็น Flagship ของ Good Day Good Time ตอนนี้ก็มองหาทำเล โดยตั้งเป้าจะปักหลักให้ครบทั้งสี่ทิศคือเหนือ ใต้ ออก ตก ทำเลเราหาได้แล้ว และจะทยอยเปิดให้ครบตามเป้าหมาย ส่วนยอดบิลลิ่งสำหรับปีนี้ เราวางเป้าไว้ที่ 10 ล้านบาท ตอนนี้เรากำลังทำแพลตฟอร์มสำหรับโปรเจ็คต์ใหม่ ที่จะให้ลูกค้าได้รู้ว่า เราไม่ใช่แค่ขายชา และการดื่มชาของเรา มันไม่ใช่แค่การดื่มชา แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น มันจะรีเลตกับการตลาดที่เราจะทำทั้งหมด แต่ตอนนี้ขออุบไว้ก่อนครับ”
ปรัชญาการทำงาน
บอสไอ๊ซ์ “ผมเชื่อว่า คนเราจะทำอะไรให้ได้ดี ต้องมีความชอบมาก่อน และพอจะลงมือทำอะไรก็ต้องมีความตั้งใจจริง และมีความมุ่งมั่น และพยายามที่จะทำให้มันสำเร็จ และเมื่อเจอปัญหา ก็ต้องค่อยๆใช้สติปัญญาคิดหาวิธีแก้ไขปัญหา อย่าไปกลัวปัญหา หรือวิ่งหนีปัญหา ทุกปัญหาผมเชื่อว่ามันมีทางแก้ไขได้ ทุกอย่างที่ทำมา มันมีปัญหาให้แก้ทุกวันครับ(หัวเราะ) ผมเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และหาทางแก้ไข เลือกที่จะเรียนรู้และอยู่กับมัน หนีไปก็ไม่พ้นครับ”
บอสโอม “ผมก็เชื่อว่า เมื่อเราทำอะไรก็ตามด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ มันก็ต้องประสบความสำเร็จแน่นอน หรือถ้ามันจะล้มเหลว มันก็ล้มเหลวด้วยมือของเราเอง มันก็ยังดีกว่าเราไม่ยอมทำอะไร ผมคิดว่าอะไรก็ตาม ถ้าทำแล้วมันล้มเหลวหรือไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้เงิน แต่อย่างน้อยที่สุด เราก็ได้ประสบการณ์ครับ”