ดื่มด่ำฉ่ำอารมณ์กับร้านอาหารอิตาเลียนสุดฮ็อต Calderazzo on 31
ดื่มด่ำฉ่ำอารมณ์กับร้านอาหารอิตาเลียนสุดฮ็อต Calderazzo (C on 31)
กำลังฮ็อตสุดๆ สำหรับร้านอาหารอิตาเลียนนาม Calderazzo (คาลเดอรราซโซ่ ) หรือจะเรียกสั้นๆว่า C on 31 (ซี ออน 31) ซึ่งชื่อของร้านมิใช่อื่นใด แต่เป็นนามสกุลของเจ้าของคือคุณพ่อ -โทนี่ (Tony Calderazzo) และคุณลูก- มาร์โก้ ( Marco Calderazzo) นั่นเอง
Mr. Tony Calderazzo
Chef Marco Calderazzo
ร้านโดดเด่นเป็นสง่าและยึดหัวหาดอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 โดยสองพ่อลูกชาวอิตาเลียนผู้หลงรักเมืองไทย ซึ่งคุณลูกคือคุณMarco Calderazzo เชฟมือฉกาจแถวหน้า เขาปรารถนาที่จะถ่ายทอดรสชาติอาหารอิตาเลียนแบบออริจีนอลให้คนไทยได้ลิ้มชิมรส ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สัมผัสอาหารดี มีความสุข เหมือนอยู่ในบ้าน” พร้อมเสิร์ฟความอบอุ่นเสมือนบ้านหลังที่ 2 นั่นคือแรงบันดาลใจที่ทำใหทั้งคู่เปิดร้านนี้ขึ้นมา ขอกระซิบว่าร้านนี้คือ “เหล้าเก่าในขวดใหม่” เพราะ เคยเปิดที่ถนนหลังสวนมานานถึง 12 ปีแล้ว
ร้านถูกตกแต่งอย่างประณีตสวยงามทุกรายละเอียด เครื่องใช้ในร้านไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม ถ้วย แก้ว ทั้งแก้วน้ำแก้วไวน์ มีด ช้อน ส้อม คุณโทนี่ เจ้าของร้าน เลือกเฟ้นมาอย่างพิถีพิถัน
ด้านหน้าสะดุดตาด้วยป้ายชื่อ Calderazzo ดีไซน์ของตัว C ล้อม 31 นอกจากจะดูเก๋ ยังแฝงด้วยความหมายที่บ่งบอกถึงที่ตั้งของร้านได้เป็นอย่างดี ก้าวแรกที่เหยียบย่างเข้าไปในร้าน ซึ่งเป็นโซนแรก ถูกดีไซน์ให้ได้บรรยากาศนั่งชิล ชิล เหมือนรับลมอยู่หน้าบ้าน ด้านนอกขวามือของร้านเป็นกระจกใส มองทะลุเห็นต้นไม้ใหญ่เขียวครึ้ม ซึ่งจะเปลี่ยนสีและอารมณ์ไปตามแสงไฟ LED
ภายในร้านถูกแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนแรก มีที่นั่งสบายๆ สำหรับรับประทานอาหาร หรือนั่งอ่านหนังสือพร้อมกับจิบเครื่องดื่มเบาๆตามใจชอบ
โซนที่ 2 เป็น “บีสโทร”จัดเรียงโต๊ะสำหรับนั่งรับประทานอาหารเต็มรูปแบบของ Fine Dining โดยแท้
และมุมซ้ายของโซนนี้ ถูกดีไซให้คุณได้นั่งจิบไวน์ในอ้อมแขนของไวน์เซลลาร์ ขวดไวน์หลายสายพันธุ์นอนเรียงรายบนชั้น รอให้เลือกชิมมากมายจนละลานตา โซนนี้เป็นที่รู้กันว่า นอกจากจะ enjoy eating& drinking แล้ว คุณยังจะได้เสวนาภาษาไวน์ กับผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์จาก คุณTony Calderazzo คุณพ่อของคุณมาร์โก้นั่นเอง
ชั้น 2 เป็นห้องวีไอพีที่มีความเป็นส่วนตัวมากๆ รองรับลูกค้าได้ 12 ที่นั่ง แต่พื้นที่ทั้งหมดในร้านสามารถรองรับได้ถึง 110 ที่นั่ง ลูกค้าที่ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่าน ต้องหลงรักร้านนี้ เพราะภายในร้านอาหารมีความพิเศษคือความโล่ง โปร่ง ไม่แออัด นั่งสบาย ด้านบนเป็นโครงหลังคาโค้งพลิ้วต่อเนื่องไปถึงด้านหน้าร้านอาหาร แถมมีช่องว่างจากกระจกใสเผยให้เห็นวิวจากภายนอก ดูแล้วสบายตา เหมือนบ้านที่โอบล้อมด้วยสวนสวยและร่มรื่น
ในช่วงค่ำคืน เพิ่มเติมความโรแมนติกด้วยสีสันสวยงามจากหลอดแอลอีดีในธีมสีแดง สีเทา และสีน้ำเงิน เพราะเป็นสีประจำร้าน และทางร้านยังเพิ่มลูกเล่นของสีสัน ด้วยกระดาษเช็ดปากหลากสี แก้วน้ำหลายสไตล์ รวมถึงจาน ช้อน เก้าอี้ ที่มีความเท่อย่างมีระดับ
นอกจากนี้ภายในร้านยังประดับตกแต่งด้วยภาพขนาดใหญ่จำนวน 3 ภาพ สะท้อนให้เห็นถึงไลฟสไตล์ของชาวอิตาเลียน และสื่อถึงความสุขในการรับประทานอาหารได้เป็นอย่างดี เพราะคนอิตาเลียนรักและมีความสุขกับรับประทานอาหารที่บ้าน แถมเชฟมาร์โก้ยังเน้นย้ำระหว่างการสนทนาอยู่เสมอว่า “เรามีความสุขกับการกินอาหารอร่อย ไวน์ดี ก็อยากให้ลูกค้าได้สัมผัสความสุขแบบเราเช่นกัน”
มา Calderazzo ต้องลอง เมนูพิเศษในแต่ละช่วงฤดูกาล ของร้าน เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อย ที่หาทานได้ยากมากในเมืองไทย คือ FIGS ประกอบด้วยมะเดื่อสด ที่สุกได้ที่ ซึ่งจะมีสีแดงอ่อน รสหวาน กลิ่นหอมละมุน เสิร์ฟพร้อมกับ “โพรซุตโต้” ที่เลือกสรรจากแหล่งที่ดีที่สุด ราดด้วยชีสอุ่นๆ กำลังดี เมื่อทานด้วยกัน จะสัมผัสได้ถึงความหวานและหอมละมุน
ขณะที่ Baby Zucchini Flower ที่นำดอกฟักทองสีเหลืองอ่อน ยัดไส้ด้วยชีสกับปลาแอนโชวี่ นำไปชุปแป้งทอดกรอบ ในแบบฉบับของอาหารโซน Amalfi Coast เสิร์ฟพร้อมกับผักสลัด นอกจากนี้ยังมี Artishoke ซึ่งเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งสีม่วงมีสรรพคุณทางยาเช่นกันและสามารถใช้ทำอาหารได้หลากรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ซุป, พิซซา หรือ เมนคอร์ส รวมถึงสลัด
ตามด้วย พาสต้า ที่พลาดไม่ได้ ถ้าไม่ทานเมนูนี้ ถือว่ามาไม่ถึงร้านกันเลยทีเดียว เพราะเส้นพาสต้าสด โฮมเมด ทำเองกับมือเชฟเช่น PastaSeafood เส้นพาสต้านุ่มๆกำลังดีปรุงรสกลมกล่อม รวมถึงซีฟู้ดสดๆเนื้อแน่นๆ เช่น กุ้ง ปลาหมึก โดยเฉพาะหอยแมลงภู่ดำจากออสเตรเลีย ที่เนื้อแน่น ฝาหอยมีสีดำ แถมเพิ่มเติมความเผ็ดด้วยพริกไทยที่นำเข้าที่มีความหอมเป็นพิเศษ
มาถึงจานไฮไลต์ T-BONE marinated สเต็กเนื้อจานใหญ่ เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรพิเศษ เรียงรายมาบนจานเดียวกันอย่างสวยงามเพราะเชฟต้องการให้เลือกลิ้มลองความหลากในรสชาติของซอสและเนื้อสเต็กที่มีความหอมความนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ เสิร์ฟพร้อมโรสแมรี่ มะเขือเทศ และผักย่าง ซึ่งเชฟพิถีพิถันคัดสรร ทีโบน มาเป็นอย่างดี เป็นเนื้อส่วนที่ดีที่สุด ปรุงรสเพียงเล็กน้อยก็ได้เนื้อนุ่ม พร้อมเนื้อติดมันบนสันกระดูก ช่วยเพิ่มรสชาติของสเต็กได้มากขึ้น
ตบท้ายด้วยของหวานยอดนิยม Tiramisu หรือ Pannacotta สีขาวๆที่เสิร์ฟบนจานสีดำ ตกแต่งลวดลายสวยงาม ส่วนคนรักเค้กแนะนำ TORTA di MELE CIOCCOLATO หวานเย็นชื่นใจสามารถดับกระหายในช่วงร้อนนี้ได้เป็นอย่างดี
เมนูที่นี่เริ่มต้นจาก 290-25,00 บาท
Calderazzo On 31 ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 253/2 ซอยสุขุมวิท 31 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เปิดบริการทุกวัน เฉพาะจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 18.00-22.30 และวันเสาร์ วันอาทิตย์ เปิดช่วง 11.30-14.30 และช่วงเวลา 18.00-22.30 น.
สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งโทร.02-258-3828
อีเมล: rvn.restbkk@calderzzoworld.com หรือเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์https://www.facebook.com/CalderazzoOn31