พสกนิกรบุรีรัมย์ จัดงานเทิดพระกียรติพระมหากษัตริย์ 2 พระองค์
พสกนิกรบุรีรัมย์ จัดงานเทิดพระกียรติพระมหากษัตริย์ 2 พระองค์ “ลูกของพ่อ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้”
ลูกของพ่อ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พสกนิกรบุรีรัมย์ จัดงานเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ 2 พระองค์ ขึ้นศักราชใหม่ วันที่ 31 ธ.ค. 59 – 1 ม.ค. 60
วันที่ 22 ธันวาคม 2559 เวลา 12.00 น. ณ สนามไอ-โมบาย สเตเดียม ได้มีการจัดงานแถลงข่าวกิจกรรมลูกของพ่อ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ นำโดยนายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แถลงถึงที่มาและกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2559 – 1 มกราคม 2560
การจัดกิจกรรมลูกของพ่อ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ นี้ เป็นกิจกรรมเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และร่วมกันสวดมนต์ถวายพระพรชัยแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล กล่าวถึงการจัดงานนี้ว่า ภายในงาน จะแบ่งเป็น 2 วัน วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2559 เวลา 18.10 น. เป็นต้นไป จะมีการจัดการแสดงสื่อผสมเทิดพระเกียรติ ชุด “ลูกของพ่อ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้” ซึ่งจะจัดแสดงในรูปแบบของสื่อผสม 4 มิติ ประกอบการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์โดยวงดุริยางค์สากล หรือวงออเครสตรา กรมศิลปากร โดยมีอาจารย์สถาพร นิยมทอง เป็นผู้อำนวยเพลง ร่วมขับร้องบทเพลงและบทกวี โดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2536, อ.ธนิศร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2559, แม่ฉวีวรรณ ดำเนิน ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2536, โก้ มิสเตอร์แซกแมน, แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, เบิร์ท กับ ฮาร์ท, สิงโต นำโชค, ฟลุก ไอน้ำ, นักร้องประสานเสียงเยาวชนบุรีรัมย์ และ คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาดนตรีศึกษา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
นอกจากนี้ ยังมีการแสดงภาพพระราชกรณียกิจ และพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ของพระมหากษัตริย์ทั้ง 2 พระองค์ รวมถึงการแสดงภาพกราฟฟิก โดยจะมีการเปลี่ยนสีอาคารไอ-โมบาย สเตเดียม จากสีน้ำเงิน เป็นสีขาว เพื่อใช้เป็นฉากสำหรับแสดงภาพ พร้อมกันนี้ยังมีการฉายภาพยนตร์เรื่อง “ลูกของพ่อ” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้พสกนิกรชาวบุรีรัมย์ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อประชาชนชาวบุรีรัมย์ การสวดมนต์ข้ามปี การจุดเทียนชัยถวายพระพร การถวายสัตย์ปฏิญาณตน และร่วมกันขับร้องบทเพลงสรรเสริญพระบารมี
ส่วนในวันที่ 1 มกราคม 2560 ตั้งแต่เวลา 7.00 น. จะมีการทำบุญตักบาตรในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ การบรรพชาอุปสมบทพระสงฆ์จำนวน 1,010 รูป และการบริจาคโลหิต บริเวณลานหน้าสนามไอ-โมบาย สเตเดียม
ทางด้านนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรมดังกล่าวว่า “กิจกรรมลูกของพ่อที่เราจะจัดขึ้นในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2560 นี้ เป็นงานที่ชาวบุรีรัมย์จะได้ถือโอกาสเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิต เพราะจะเป็นโอกาสที่ได้จะได้เริ่มต้นชีวิตในศักราชใหม่ ในแผ่นดินใหม่ ผมตั้งใจว่างานนี้จะต้องเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์เมืองบุรีรัมย์ และจะเป็นงานที่ดีที่สุดในชีวิตผม
ในงานท่านจะได้พบกับกิจกรรมต่างๆ ซึ่งนอกจากงาน 4D และออเครสตราแล้ว เรายังมีภาพยนตร์เทิดพระเกียรติเรื่อง “ลูกของพ่อ” ความยาว 30 นาที ซึ่งได้คุณสุรัสวดี เชื้อชาติ ผู้กำกับมือรางวัล ซึ่งเคยกำกับภาพยนต์เรื่องขุนรองปลัดชู ให้เกียรติเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเราจะฉายลงบนจอที่ใหญ่ที่สุด คือ อาคารไอ-โมบาย สเตเดียม
นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมกันจัดทำเพลงเทิดพระเกียรติ ชื่อเพลงว่า “ชาวศิวิไลซ์” ซึ่งจะนำมาบรรเลงเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่นี่ เพลงนี้ ได้คนเขียนเพลงที่ดีที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย คือ คุณสุรักษ์ สุขเสวี ผู้แต่งเพลง King of Kings มาเป็นสร้างสรรค์เพลงนี้ขึ้นมา
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คืนวันที่ 31 ธันวาคม ต่อเนื่องไปถึงเช้าวันที่ 1 มกราคม นี้ พี่น้องชาวจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึงชาวไทยทั้งประเทศ จะได้มาร่วมกันเทิดพระเกียรติ และแสดงให้เห็นว่า เราทุกคนเกิดในสมัยรัชกาลที่ 9 และเราก็จะเป็นคนดีในสมัยรัชกาลที่ 10”
ภายในงานแถลงข่าว ได้มีการแสดงการบรรเลงขลุ่ย เพลงพระราชนิพนธ์ความฝันอันสูงสุด โดยอาจารย์ธนิศร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2559 และการขับร้องเพลงตามรอยพระราชา โดยศิลปิน โก้ มิสเตอร์แซกแมน, ฟลุก ไอน้ำ ร่วมกับคณะประสานเสียงเยาวชนบุรีรัมย์
จังหวัดบุรีรัมย์ และสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขอเรียนเชิญประชาชนชาวไทยทุกท่าน เข้าร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติลูกของพ่อ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการจัดงานครั้งนี้ที่ลานกิจกรรมหน้าสนามไอ-โมบาย สเตเดียม จังหวัดบุรีรัมย์ จะเป็นวันที่พวกเราชาวไทยทุกคนจะได้แสดงให้คนทั้งโลกเห็นว่า พวกเราคนไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่จะอยู่ในหัวใจที่จงรักภักดีของเราตลอดไป