น้องแก้มใส ณัฏฐณิชชา สัตยารักษ์…ช่างแต่งหน้าโขนพระราชทานอายุน้อยที่สุดในเมืองไทย
แนะนำช่างแต่งหน้าโขนอายุน้อยที่สุดในเมืองไทย
“น้องแก้มใส ณัฏฐณิชชา สัตยารักษ์”
ในบรรดาช่างแต่งหน้าโขน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าโขนพระราชทาน) ซึ่งจัดแสดง ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน-8 ธันวาคม 2568
ซึ่งต้องใช้ทีมแต่งหน้าโขนทั้งหมด 24 ท่านนั้น มีสาวน้อย
หน้าตาสวยและมากความสามารถคนหนึ่งที่จะต้องจารึกไว้ว่าเป็นช่างแต่งหน้าโขนที่อายุน้อยที่สุดในเมืองไทย
เธอคือน้องแก้มใส ณัฏฐณิชชา สัตยารักษ์ ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเรานี่เอง
”ปีนี้หนูเพิ่งอายุครบ 16 ปีค่ะ” เธอเอื้อนเอ่ยแนะนำตัวเองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและไพเราะเพราะพริ้งยิ่ง
ถามไถ่เธอไปว่า รู้ว่าตัวเองชื่นชอบและหลงใหลในศิลปะการแต่งหน้าโขนตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้ทุ่มกายทุ่มใจหันมาสนใจงานแต่งหน้าโขนทั้งที่ยังเรียนไฮสกูลอยู่เลย
เธอเเล่าว่า
“น้องแก้มใส เริ่มเรียนแต่งหน้าตั้งแต่ตอนอายุ 13 ปีค่ะ ตอนแรกตั้งใจจะเรียนแต่งหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น เพราะตอนนั้นได้เป็นนางแบบเดินแฟชั่นให้กับโรงเรียน ( น้องแก้มใสเรียนที่ รร. ราชินีบน) คุณครูไม่อนุญาตให้ใช้ช่างแต่งหน้า เราต้องแต่งหน้าให้ตัวเอง หนูเลยไปเรียนแต่งหน้าที่ รร. สอนศิลปะแต่งหน้า MTI …
“แต่ไปๆมาๆ เกิดความสนใจเป็นพิเศษ น้องแก้มใสเลยลงคอร์สเรียนการแต่งหน้าครบทุกแขนงเลยค่ะ เรียนทั้งแต่งหน้าสวยงาม, Special effect, Body paint…แต่การแต่งหน้าที่ชอบที่สุดคือการแต่งหน้าโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หรือที่เรียกสั้นๆว่า โขนลายเส้นค่ะ”
และแน่นอนว่า คุณครูที่สอนแต่งหน้าโขนให้เธอนั้น จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกกูรูสอนแต่งหน้ามือทองและ “มือหนึ่ง” หนึ่งของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง “ ครูขวด”มนตรี วัดละเอียด อดีตครูใหญ่แห่งโรงเรียนสอนศิลปะการแต่งหน้า MTI และเจ้าของ KUAD GARDEN ในวันนี้นี่เอง

(บน) น้องแก้มใส กับครูขวด มนตรี วัดละเอียด)
เธอเล่าต่อว่า “จากการที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแสดงความสามารถทางด้าน Make up design ที่งาน Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney
ภายในงานมีการจัดแสดงโขน มีชาวชาวต่างชาติมาร่วมชมการแสดงพร้อมทั้งปรบมือชื่นชม ทำให้หนูรู้สึกประทับใจมากค่ะ”

และนั่นคือแรงบันดาลใจที่ทำให้น้องแก้มใสหันมาโฟกัสเรื่องการแต่งหน้าโขนเป็นพิเศษ

“พอได้มาออดิชั่นการแต่งหน้าโขนมูลนิธิฯ กับคุณครูขวด ก็ได้รับการคัดเลือกเป็นช่างแต่งหน้าโขนพระราชทานตั้งแต่อายุ 14 ปี ซึ่งถือได้ว่าอายุน้อยที่สุด และได้ร่วมในทีมแต่งหน้าโขนพระราชทานมาจนกระทั่งปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงวโรกาสร่วมส่งเสด็จฯสู่สวรรคาลัยของพระพันปีหลวงด้วย นับเป็นเกียรติอย่างสูงสุดที่ได้มีโอกาสถวายงานตั้งแต่อายุยังน้อยค่ะ”
เธอพูดถึงอนาคตว่า จะยังคงยึดงานแต่งหน้าโขนที่ตัวเองรักต่อไป “เพราะนอกจากจะเป็นงานที่เรารักและได้มีส่วนร่วมอนุรักษ์ศิลปะซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไทย และยูเนสโกยังได้ยกย่องให้เป็นมรดกโลกแล้ว ยังเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลและเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองและครอบครัวของเราด้วยค่ะ “
”แต่อาขีพแต่งหน้าโขนอย่างเดียวคงไม่สามารถเลี้ยงชีพได้ หนูต้องมีงานอื่นทำด้วย และอาขีพที่หนูสนใจและใฝ่ฝันก็คือคุณหมอ เพราะเป็นอาชีพที่ได้ช่วยเหลือคนป่วยค่ะ…
“บางคนอาจจะมองว่างานแต่งหน้าโขนกับการเป็นหมอ ดูไม่น่าจะไปกันได้ แต่หนูว่ามันไปกันได้ดีนะคะ เพราะงานแต่งหน้าโขนและงานวิชาชีพหมอ มีพื้นฐานเหมือนกันคือ สเกลในเนื้องานของทั้ง 2 อย่างนี้ ต้องใช้ความละเอียดพิถีพิถันและประณีตบรรจง ชนิดพลาดไม่ได้เหมือนกันค่ะ”
เธอทิ้งท้ายด้วยวิสัยทัศน์อันน่าทึ่ง

