พบหมอพื้นบ้าน 9 ประเทศ ในงานมหกรรมสุขภาพอาเซียน
หมอพื้นบ้าน 9 ประเทศ พร้อมเปิดตำรับฟื้นฟูสุขภาพแม่หลังคลอดเป็นครั้งแรก ในงานมหกรรมสุขภาพอาเซียน
ครั้งแรกของประวัติศาสตร์เมืองไทย “อภัยภูเบศร” โต้โผจัดมหกรรมสุขภาพอาเซียน ระดมแพทย์พื้นบ้าน แบ่งปันประสบการณ์การรักษา ทั้งการใช้ยาสมุนไพร พิธีกรรมความเชื่อ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ชูหัตถการฟื้นฟูสุขภาพแม่หลังคลอดด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน
นายแพทย์จรัญ บุญฤทธิการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า การแพทย์แผนไทยเป็นการแพทย์ประจำชาติของคนไทย ที่มีการสั่งสมความรู้มาอย่างยาวนาน ซึ่งทั่วโลกนั้นมีไม่กี่ประเทศที่จะมีศาสตร์การดูแลสุขภาพเป็นของตนเอง โดยนำทรัพยากรที่มีในท้องถิ่นมาใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาและฟื้นฟูสุขสภาพ นอกจากประเทศไทยแล้วในภูมิภาคอาเซียนส่วนใหญ่ก็มีการแพทย์ดั้งเดิมที่ใช้ในการดูแลสุขภาพเช่นกัน โดยมีแนวคิดและวิธีการรักษาที่คล้ายคลึงกัน การดูแลสุขภาพจะเน้นการป้องกัน ด้วยอาหาร การออกกำลังกายที่ปรับให้เข้ากับธรรมชาติ การทำสมาธิและปฏิบัติตามแนวทางศาสนาที่ตนนับถือ การรักษาแบบองค์รวม นอกจากวิธีการรักษาที่มีการใช้ยาจากสมุนไพร และหัตถการอื่นๆ แล้วยังมีการดูแลสภาพจิตใจ และสังคมด้วยการใช้หมอพื้นบ้านเป็นศูนย์กลาง ที่จะประกอบพิธีกรรมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ป่วยและชุมชน วิธีการรักษาที่เน้นการพึ่งตนเองในระดับชุมชน โดยใช้ทรัพยากรที่พื้นที่มี เช่น การนวด การประคบ การย่าง การใช้ยาจากสมุนไพร เป็นต้น ” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าว
นายแพทย์จรัญ กล่าวด้วยว่า การพัฒนาการบริการและผลิตภัณฑ์จากการแพทย์แผนไทยยังจะสามารถทำให้เกิดการพึ่งตนเองได้ทั้งในระดับประชาชน ชุมชนและประเทศ และอาจสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลอีกด้วย จึงได้จัดงานมหกรรมสุขภาพอาเซียนขึ้น เพื่อรวบรวมและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการแพทย์ดั้งเดิมในประเทศอาเซียน อันจะนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพของประชาชน พัฒนาการบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์การเป็นผู้นำด้านการแพทย์ดั้งเดิมในอาเซียน โดยการจัดงานจะมีขึ้นในระหว่าง 14-19 พฤษภาคม 2560 ซึ่งทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้เชิญ เครือข่ายหมอยาพื้นบ้านอาเซียน 9 ประเทศ ประกอบด้วย กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ไทย รวมทั้งสิ้น 42 คน ร่วมงานดังกล่าว
ด้าน ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร รองผู้อำนวยการด้านสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวถึงรายละเอียดของการจัดงาน มหกรรมสุขภาพอาเซียนว่า จะเริ่มขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 14 พฤษภาคม โดยจะมีการพบปะเครือข่ายหมอพื้นบ้านประเทศอาเซียน และจะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการและการแถลงข่าวงานมหกรรมสุขภาพอาเซียน ในวันที่ 15 พฤษภาคม มีการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ และบรรยายพิเศษ อาทิ พิธีกรรมและการแพทย์เหนือธรรมชาติ โดย นายธีรธรรมะพัฒน์ พุ่มไชย ผู้รู้ด้าน
ศาสนาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เอเชีย รวมทั้งแลกแลกเปลี่ยนประสบการณ์การรักษา จากหมอพื้นบ้านประเทศอาเซียน ทั้ง 9 ประเทศ
และอีกหนึ่งความน่าสนใจ ภายในงาน มีการจัดนิทรรศการ เกี่ยวกับการฟื้นฟูสุขภาพแม่หลังคลอด ซึ่งนับเป็นวัฒนธรรมการดูแลสุขภาพที่มีร่วมกัน โดยจุดแข็งในการดูแลสุขภาพแม่หลังคลอด คือการฟื้นฟูอย่างเป็นองค์รวม ด้วยการทำหัตถการที่หลากหลายในแต่ละประเทศ เน้นการเติมธาตุไฟให้สมดุล หรือที่เรียกว่า “อยู่ไฟ” ชื่อว่า ความร้อนเป็นสิ่งบริสุทธิ์ สามารถเผาผลาญสิ่งที่เป็นโทษได้ การอยู่ไฟจะช่วยให้เลือดลมของมารดาหลังคลอดไหลเวียนดีขึ้น ลดการเกร็งและปวดเมื่อย ของกล้ามเนื้อ ช่วยให้แผลฝีเย็บหายเร็วขึ้น ช่วยลดอาการปวด อันเกิดจากการหดรัดตัวของมดลูก และอาการเจ็บปวดจากการคัดเต้านม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี และในแต่ละประเทศ หมอพื้นบ้านยังมีวิธีการอยู่ไฟที่คล้ายคลึงกัน อาทิ การย่าง ประคบ รม อบ อาบ ทำ Bertungku-มาเลเซีย ทำ Chwayaumg-พม่า หรือแม้แต่ การอังเพลิงในกัมพูชา นอกจากนี้ยังมีการแนะนำการเลือกใช้อาหารและยาสมุนไพรในการบำรุงและฟื้นฟูสุขภาพ เช่น คนอินโดนีเซียจะให้ใช้ตำรับ Jamu หลังคลอด หรือ คนลาวและไทย ให้ดื่มน้ำมะพร้าว ช่วยให้คลอดง่าย เป็นต้น