มร.ดาเรน ไวท์
มร.ดาเรน ไวท์ บอสคนเก่งแห่งคอฟฟี่เวิลด์ ส่งความสุข ผ่านกาแฟแก้วโปรด
มร.ดาเรน ไวท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอฟเอ ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า คอฟฟี่เวิลด์ ได้เปิดให้บริการในประเทศไทยมาเป็นร่วม 2 ทศวรรษ ปัจจุบันมีกว่า 100 สาขา ในประเทศไทย คอฟฟี่เวิลด์มีการพัฒนาตนเองไม่เคยหยุดนิ่ง โดยหนึ่งในการพัฒนาของคอฟฟี่เวิลด์คือการปรับตัวให้ทันกับความต้องการผู้บริโภค โดยคำนึงถึงความแตกต่างของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ พร้อมค่อยๆ ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของร้านให้เข้าถึงง่ายดูเก๋และเป็นมิตรสไตล์ลอฟต์ นอกจากนี้หัวใจสำคัญของร้านอย่างเครื่องดื่มและอาหารยังถูกปรับเปลี่ยนให้มีความหลากหลายและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น หากยังคงกาแฟรสชาติเข้มเข้นตามแบบฉบับของคอฟฟี่ เวิลด์ ที่ผ่านการชงด้วยความพิถีพิถันจากบาริสต้าที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญ รวมทั้งยังกรุ่นกลิ่นหอมของสูตรลับกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ของคอฟฟี่เวิลด์ สไตล์ Tri-Origin Blend จากสามสายพันธุ์ คือ บราซิล กัวเตมาลา และเชียงใหม่ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีความโดดเด่นเด่นที่แตกต่างกันทั้งในเรื่องของความชุ่มฉ่ำ (Acidity) รสชาติความเข้มข้นของกาแฟ (Flavor) เนื้อสัมผัสและความเข้มของเนื้อกาแฟ (Body) รวมถึงกลิ่นและรสของกาแฟที่ยังคงค้างอยู่ในปากและลำคอหลังจากกลืนลงไปแล้ว (After Taste)
“นอกจากการแนะนำเมนูใหม่ๆ นำเสนอแก่ลูกค้าแล้ว คอฟฟี่เวิลด์ ยังจะมีการปรับเปลี่ยน หรือหมุนเวียนเครื่องดื่มแก้วโปรด และเมนูอาหารทุกๆ สองเดือน เพื่อสร้างความแปลกใหม่ไม่จำเจ รวมถึงการรังสรรค์เมนูสุดพิเศษเฉพาะสาขาขึ้นอีกด้วย เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกพื้นที่
สำหรับครึ่งปีหลังนี้เรามีแผนปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของร้านที่จะเปิดใหม่เป็นสไตล์ LOFT เน้นการตกแต่งแบบเท่ๆ โดยนำร่องที่สาขาเกตเวย์ เอกมัย นอกจากนี้ยังจะขยายการเติบโตไปยังแถบ AEC โดยประเดิมที่ลาวเป็นประเทศแรก ด้วยมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะจุดแข็งสาขาที่อยู่ในต่างจังหวัดและเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับเพื่อนบ้าน ซึ่งจะทำให้การส่งพนักงานไปเทรนนิ่งพนักงานสาขาใหม่ในประเทศเพื่อนบ้านทำได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งการขนส่งวัตถุดิบต่างๆ ก็สะดวกเพราะเรามีระบบโลจิสติกส์เป็นของตัวเองที่สามารถจัดส่งไปยังจุดต่างๆ ที่เป็นจุดกระจายวัตถุดิบทั้งภายในประเทศและประเทศในแถบ AEC คอฟฟี่เวิลด์ตั้งเป้าว่าจะขยายให้ครบ 200 สาขา ในอีก 3 ปี ทั้งในและต่างประเทศ”
“สิ่งที่ผมเน้นย้ำมากที่สุดคือ การใส่ใจในรายละเอียดทุกๆ อย่าง เริ่มตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่ดี บาริสต้าและพนักงานประจำสาขาจะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการปรุงกาแฟรวมถึงการให้บริการที่ดีต่อลูกค้า การเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคว่าลูกค้าไม่ชอบอะไรที่ซ้ำซาก ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มและอาหารเราก็มีการออกเมนูใหม่ๆ ทุกๆ สองเดือน
สำหรับคอกาแฟและผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ เราก็มีเครื่องดื่มหลากหลายให้เลือก ในส่วนของร้านก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เรามีการปรับโฉมครั้งใหญ่ จากที่รูปโฉมของร้านจะเหมือนกันทุกสาขาจนกลายเป็นคาแร็กเตอร์ที่คุ้นชิน ก็คำนึงถึงผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่มากขึ้น เราจึงทำการรีโนเวทสาขาใหม่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละสาขามากขึ้น เพราะเราอยากให้ Coffee World เป็นบ้านหลังที่สามที่สมบูรณ์แบบ ทุกคนสามารถเข้าดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟ พร้อมๆ กับทำงาน หรือจะสังสรรค์กับเพื่อน นั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดได้อย่างรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข”
ปัจจุบัน Coffee World มีกว่า 100 สาขาทั่วประเทศไทยและในต่างประเทศ อีกหนึ่งภารกิจที่รอการพิสูจน์ความสามารถของเอ็มดีร้านกาแฟแบรนด์ไทยคนนี้คือ การขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติม โดยเฉพาะการส่งแบรนด์ CoffeeWorld เข้าสู่ AEC และขยายสาขาให้ได้ 200 สาขา ภายใน 3 ปี ถือเป็นงานหนักที่เขาทุ่มเททำให้สำเร็จตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ ดังนั้น ในวันทำงานตารางงานของ ดาเรน จึงเต็มไปด้วยการประชุม ตรวจดูงานสาขา วางแผนและแก้ไขปัญหาต่างๆ แม้แต่ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ การพักผ่อนของเขายังมีงานเข้ามาเกี่ยวข้อง
“ผมชอบขับบิ๊กไบค์ เพราะตอนที่ผมบังคับรถไปตามทาง มันเป็นช่วงเวลาที่ผมได้อยู่กับตัวเอง จิตใจจดจ่ออยู่กับการขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อไปให้ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย มันจะวอกแวกไม่ได้เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และระหว่างทางก็ยังได้สัมผัสกับทัศนียภาพในเส้นทางที่ขับผ่าน ส่วนใหญ่ผมจะขับเส้นทางที่ไม่ไกลมาก แต่ถ้าผมไม่ได้ออกไปขี่มอเตอร์ไซค์กับเพื่อนๆ ผมก็ชอบที่จะเดินไปเที่ยวตามแหล่งต่างๆ ในกรุงเทพฯ ถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนแล้วก็ไปนั่งดื่มกาแฟในร้านกาแฟ ไม่ใช่แค่นั่งชิลอย่างเดียว แต่เป็นการสำรวจตลาดไปในตัว ดูว่าเขามีอะไรดี ที่เราจะนำมาปรับใช้กับแบรนด์เราได้บ้าง สำหรับผมการได้ดื่มกาแฟ ไม่ว่าจะดื่มเพื่องาน หรือดื่มเพื่อพักผ่อน แต่บางครั้งทั้งสองอย่างก็แยกกันไม่ออก แต่มันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของผม”
Cr.Pic from Facebook