ช่อผกา อุทธา สุดปลื้ม รับรางวัล “แม่ดีเด่นแห่งชาติ 20561” ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม

ช่อผกา อุทธา

ช่อผกา อุทธา สุดปลื้ม รับรางวัล “แม่ดีเด่นแห่งชาติ 20561”

ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม

ช่อผกา อุทธา ได้รับรางวัล “แม่ดีเด่นแห่งชาติ 20561” ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม  จะเข้าเฝ้าและรับประทานโล่ประกาศเกียรติคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ซึ่งจะเสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานวันแม่แห่งชาติ ในวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2561  เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมวายุภักษ์  ชั้น 5 โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการฯ

                                          ช่อผกา อุทธา กับน้องชายทั้งสอง : สังคม พรสี่ (ขวา)และ โชคดี พรสี่ (ซ้ายสุด)

ช่อผกา อุทธา อดีตแม่พิมพ์ของชาติคนงามแห่งอ.พนา จ.อำนาจเจริญ เป็นบุตรสาวของคุณพ่อสุบรรณ-คูณแม่แพง พรสี่ (ซึ่งคุณพ่อสุบรรณ ได้รับพระราชทานรางวัล “พ่อตัวอย่าง” และรางวัล “ชาวนาคนขยันของชาติ” ) วัยเรียน ได้ถูกขอตัวมาเป็นบุตรบุญธรรมของน้องสาวของคุณพ่อคือคุณแม่มณีและคุณพ่อกอง รูปแก้ว  เธอจบการศึกษาจากวิทยาลัยครูอุบลฯ และ มศว.ประสานมิตร สถานภาพสมรส และมีบุตร 2 คน ปัจจุบันเป็นช้าราชการบำนาญ หลังเกษียณก็ไม่ได้หยุดยิ่ง เพราะเป็นสาวไฮเปอร์และชอบบำเพ็ญประโยชน์ จึงได้อุทิศตนทำประโยชน์แก่สังคมมาโดยตลอด โดยเฉพาะการเป็นผู้นำชุมชนเพื่อพัฒนาชุมชนบ้านเกิด คือ อ.พนา จังหวัดอำนาจเจริญ

ตั้งแต่เป็นประธานกลุ่มเครือข่ายวัฒนธรรม “แพงสุบรรณอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน” และเป็นประธานสภาวัฒนธรรม อำเภอพนา  เป็นแม่งานของชุมชนต่างๆ อาทิ ชุมชนคนทอผ้าลายขิต ชุมชนคนทำข้าวตอกแตก ชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดอำนาจเจริญสมาคมช่อผกาเพื่อการศึกษา และ กลุ่มท่องเที่ยวโดยยชุมชนพนา

นอกจากนั้นยังเป็นผู้นำจัดกิจกรรมดีๆของชุมชนตั้งแต่โครงการฝึกอบรมแรงงานผู้สูงอายุเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ ปีงบประมาณ พ.ศ.2561 หลักสูตรฝึกอาชีพเสริม รุ่นที่ 6/2561 สาขาการทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (30 ชั่วโมง)ชมรมผุ้สุงอายุอำเภอพนา(สังคม พรสี่ -ประธานชมรม กิจกรรมปลูกป่าพะยูง กิจกรรมปล่อยปลาพันธุ์ต่างๆเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงปลาในชุมชน กิจกรรมส่ง เสริมแพทย์แผนโบราณในชุมชน  เคยได้รับรางวัล จิตอาสาดีเด่น 20560

ปัจจุบันกำลังดำเนินการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนพนา มีนักท่องเที่ยวจากส่วนกลางเข้าพื้นที่่แล้วเดือนละครั้ง ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างบอกว่าประทับใจการต้อนรับจากชุมชน

“เมื่อเราทำหน้าที่ดูแลคนในครอบครัวคือบทบาทการเป็นลูกของพ่อแม่ เป็นภรรยาของสามี และเป็นแม่ของลูกๆ เรียบร้อย จนลูกเต้าไปถึงฝั่งฝันกันหมดแล้ว  เราก็ไม่ควรหยุดอยู่แค่นั้นหรือนิ่งเฉย ควรจะออกมาทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม เราถนัดเรื่องไหน หรือทำอะไรได้ก็จงทำไปเลย ศักยภาพมีเท่าไหร่ไม่ควรเก็บหรือปล่อยทิ้งให้เปล่าประโยชน์ เราควรเอามันออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยเฉพาะชุมชนของเราค่ะ”

นั่นคือทัศนคติและปรัชญาในการใช้ชีวิตของเธอ