ดร.กฤษณา หาระสาร กับบทบาท “เปลก็ไกว ดาบก็แกว่ง”

ดร.กฤษณา หาระสาร กับบทบาท “เปลก็ไกว ดาบก็แกว่ง”

ในวงการนักเขียนและศิลปะ ดร.กฤษณา หาระสาร เธอคือศิลปินสาวผู้เป็นทั้งนักกวีและนักเขียน เจ้าของนามปากกา “กระดาษแก้ว” ผู้แสนจะโรแมนติคและหลงใหลงานศิลปะและผ้าไทยสุดชีวิต  แต่ในวงการธุรกิจท่องเที่ยว เธอคือมาดามแห่ง  KHIRI TRAVEL และ YAANA VENTURES  สองบริษัทท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ยักษ์ใหญ่ระดับ World Class แถวหน้าของเมืองไทย เพราะเธอคือภรรยาสุดเลิฟของ คุณวิลเลม นิไมเยอร์ CEO และประธานผู้ก่อตั้งบริษัททั้งสอง หนุ่มฮอลแลนด์ผู้ประสบความสำเร็จ ของ 2 บริษัทฯ ดังกล่าวนั่นเอง ซึ่งคุณสามีสุดเลิฟ ยอมรับสารภาพว่า เบื้องหลังความสำเร็จของตนนั้น ก็เพราะมีคุณภรรยาคนนี้เป็น The Wind Beneath My Wing หรือ “ลมใต้ปีก”  ของเขาโดยแท้เทียว
 
 
ในงานฉลองครบรอบ 25 ปี ของ KHIRI TRAVEL
 
 

ดร.กฤษณา หาระสาร และลูกสาวคนโต น้องมาชา-มนสิชา (ขวา) กับลูกสาวคนเล็ก น้องนาโอมิ -ณิศามณี นีไมเยอร์ (ซ้าย)

 หลังกลับจากทริปยุโรปพร้อมแฟมิลี่ที่ยกบ้านไปเยี่ยมครอบครัวฝ่ายสามีที่เนเธอแลนด์มาไม่ทันได้หายอกหายใจดีนัก ดร.กฤษณา หาระสาร ก็ต้องแพ็คกระเป๋าบินบึ่งไปจังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อพร้อมกับลูกสาวทั้งสองคน ด้วยภารกิจของ “คุณแม่” ที่ต้องมาคอยดูแลลูกสาวคนโต “น้องมาชา-มนสิชา นิไมเยอร์ ที่มาทำโปรเจ็กต์งานศิลปะก่อนที่เธอจะเรียนจบปริญญาตรีด้านศิลปะที่อเมริกา ซึ่งงานนี้ น้องมาชาได้เลือกหัวข้อนำเสนอเป็น “หนังตะลุง” ศิลปะพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้นั่นเอง

 
 
 
แน่นอนว่า ทุกทริปที่มาสุราษฎร์ฯ เธอและแฟมิลี่จะต้องเช็คอินที่ Anurak Community Lodge รีสอร์ตสุดเอ๊กซ์คลูซีฟของตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอพนม ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
 
 
Anurak Community Lodgeเป็นรีสอร์ตเชิงอนุรักษ์ที่รายล้อมด้วยป่าเขียวชะอุ่ม อากาศสด บริสุทธิ์ ช่างเป็นมิตรกับปอดเสียนี่กระไร มิน่า นักท่องเที่ยวจากมุมไหนๆ ของโลก จึงชอบใจและต้องแวะเวียนมาเช็คอินกันครั้งแล้ว ครั้งเล่า
 
 
ดร.กฤษณา กับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
 
 
น้องมาชากับงานศิลปะ “หนังตะลุง” ที่เธอเลือกทำเป็นโปรเจ็คต์เสนออาจารย์ ก่อนจบปริญญาตรีด้านศิลปะที่อเมริกา
 
 
 งานนี้ ดร.กฤษณา ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในแวดวงศิลปะวัฒนธรรม สามารถช่วยเหลือลูกสาวได้อย่างเยอะทีเดียว ตั้งแต่หาข้อมูลเชิงลึก และหาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเรื่องหนังตะลุงมาให้คำแนะนำปรึกษา ตลอดจนจัดหาวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำหนังตะลุงมาให้ลูกสาวได้ลงมือปฏิบัติจริง กับหนังตะลุงตัวจริง เสียงจริง
 
 
 
ยามว่างเว้นจากภารกิจ “เปลก็ไกว” กับลูกสาวแล้ว  ดร.กฤษณา จะมีฮอบบี้สุดโปรด ซึ่งหนีไม่พ้นเรื่องงานเกี่ยวกับศิลปะ ถ้าไม่ช่วยคุณแม่บ้านทำดอกกุหลาบจากใบเตยสด เพื่อประดับในรีสอร์ตแล้ว เธอก็เลือกที่จะเพ้นต์รูป หรือนั่งอ่านหนังสือเล่มโปรด
 
 
ด้วยความที่เป็นครอบครัวอนุรักษ์ตัวยง ชนิดที่รีสอร์ตจะมีกฎเหล็กว่าห้ามใช้วัสดุที่ทำด้วยพลาสติคโดยเด็ดขาด ขนาดหลอดดูดน้ำในแก้ว ก็สั่งทำเป็นอลูมิเนียม และขณะเมื่อไปพักผ่อนกันตามประสาแม่ลูกที่ริมทะเล ขากลับ คุณแม่คุณลูกยังพากันเดินเก็บขยะกลับที่พัก ทุกครั้งไป
 
 
น้องนาโอมิ-ณิศามณี  ถึงจะเป็นน้องสาวคนเล็ก แต่ก็ “มาดแมน” และใจใหญ่ งานนี้ยอมให้พี่สาว มาชา-มนสิชา  ขี่หลังด้วยความสนุกสนาน
 
 
เก็บขยะกลับไปทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง คือนิสัยของคุณแม่และสมาชิกทุกคนในบ้านนี้
 
พูดถึงบทบาทของการเป็นคุณแม่ ดร.กฤษณาทิ้งท้ายว่า “ต่อให้เราจะยุ่งเรื่องงานแค่ไหน แต่หน้าของความเป็นแม่ น้องก็ทำหน้าที่แม่กับลูกเกินร้อยค่ะ อย่างช่วงนี้ ก็ยอมงดรับงาน งดรับนัดจากทุกคน มาขลุกอยู่ที่อนุรักษ์รีสอร์ต ที่เขาสก  เพื่อเป็นเพื่อนลูกและคอยดูแลลูก  เราเองก็ทำงานศิลปะของตัวเองไปพร้อมๆ ลูก  และพวกเราก็เป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  ไปไหนก็ไม่ลืมนึกถึงสิ่งแวดล้อม  ในบริษัทฯ เราจะแจกถุงผ้าให้พนักงานทุกคน หากใครใช้หลอดหรือถุงพลาสติก จะต้องโดนปรับชิ้นละ 5 บาท และเอาเงินที่ได้ไปบริจาคให้มูลนิธิต่างๆ  เรื่องนี้เราทำกันมานานแล้วค่ะ  และดีใจที่ตอนนี้คนไทยหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น”
 
 
กับทริปนี้ ต้องถือว่าเป็นการยิงนัดเดียว แต่ได้นกถึงสองตัว
เพราะ ดร.กฤษณา บอกว่า “เป็นโอกาสได้พากันไปพักผ่อนตามประสาแม่ลูกอีกด้วยค่ะ”
 
Perfect!
 
 
%d bloggers like this: