โรลส์-รอยซ์ จัดงานพรีวิวผลงานศิลปะ

โรลส์-รอยซ์ จัดงานพรีวิวผลงานศิลปะ
โดย โมฮัมเหม็ด คาเซม ศิลปินชาวเอมิเร็ตส์ในลอนดอน

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส นำโดย มร.ทอร์สเทน มูลเลอร์ ออทวอส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร จัดงานเปิดตัวรอบเอ็กซ์คลูซีฟ 2 งานศิลป์ชิ้นเอกล่าสุดจากโรลส์-รอยซ์ ในกรุงลอนดอน เมื่อเร็ว ๆ นี้

ผลงานศิลปะทั้งสองชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองกู้ดวูด ในเทศมณฑลเวสต์ซัสเซกซ์ สหราชอาณาจักร อันเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์โรลส์-รอยซ์ โดยผลงานชิ้นแรกเกิดจากความร่วมมือระหว่างโมฮัมเหม็ด คาเซม ศิลปินชาวเอมิเร็ตส์ กับทีมงานฝ่ายออกแบบรถยนต์สั่งผลิตของโรลส์-รอยซ์ ส่วนผลงานชิ้นที่ 2 เป็นชุดภาพยนตร์สั้นที่จัดทำขึ้นโดยบริษัท เพื่อนำเสนอเรื่องราวของ House of Rolls-Royce และเฉลิมฉลองแด่มรดกอันทรงคุณค่าของแบรนด์ระดับโลกที่สืบทอดตราบจนปัจจุบัน

ARTIST MOHAMMED KAZEM
ARTIST MOHAMMED KAZEM

โมฮัมเหม็ด คาเซม ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกศิลปะแนวร่วมสมัยในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้รับมอบหมายจากโรลส์-รอยซ์ ให้เป็นผู้รับผิดชอบแผนงานศิลปะของโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce Art Programme) ในครั้งนี้ ซึ่งผลงานใหม่ทั้ง 2 ส่วนนี้ถือเป็นการต่อยอดผลงานชุด Directions ของคาเซม โดยจะเป็นการนำปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งในที่นี้คือชุดข้อมูลเชิงเทคนิค มาสร้างสรรค์เป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมอันน่าประทับใจ

unnamed (14)ผลงานส่วนแรกเป็นประติมากรรมที่ประกอบด้วยชุดตัวเลขและตัวอักษรที่ทำจากเหล็กกล้า โดยเกิดจากการทำงานร่วมกันของช่างฝีมือทั้งชายและหญิงจาก Home of Rolls-Royce ที่คาเซมได้พบปะระหว่างการไปเยือนเมืองกู้ดวูด เนื่องจากข้อมูลเชิงเทคนิคเป็นการระบุถึงพิกัดที่ตั้ง พวกเขาจึงต้องการนำเสนอสภาพแวดล้อมของพื้นที่ด้วยองค์ประกอบของแนวคิดเชิงคตินิยม แม้ชุดตัวเลขและตัวอักษรเหล่านี้จะถูกนำมาประกอบกันในเชิงสถาปัตยกรรม แต่ก็ถูกนำเสนอในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติ ก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผลงานกับผู้ชม ผ่านการสะท้อนภาพตัวตนและสภาพแวดล้อมของเขาเหล่านั้น

การมาเยือน Home of Rolls-Royce ทีมงานฝ่ายออกแบบรถยนต์สั่งผลิตของโรลส์-รอยซ์และคาเซม ได้เกิดแนวคิดการสร้างสรรค์รถยนต์รุ่นใหม่ที่สามารถนำแนวคิดของคาเซมในเรื่องการสอดประสานกันระหว่างเส้นละติจูดและลองติจูด มาใช้เป็นสาระสำคัญในงานศิลป์ได้อย่างโดดเด่น และได้กลายเป็นสุดยอดยานยนต์รุ่นเรธ (Wraith) ซึ่งถือเป็นงานศิลป์ในส่วนที่ 2 ของคาเซม โดยได้มอบหมายให้ อาบู ดาบี มอเตอร์ เป็นผู้รับผิดชอบ และถือเป็นส่วนหนึ่งของผลงานชุด Directions ของคาเซม

เจ้าของรถยนต์โรลส์รอยซ์ มักเรียกร้องให้มาสเตอร์ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ยานยนต์สั่งผลิตเซ็นชื่อลงบนผลงานด้วย ซึ่งสำหรับรถยนต์รุ่นนี้ ธรรมเนียมดังกล่าวได้ถูกยกระดับให้มีความสวยงามโดดเด่นยิ่งขึ้นโดยช่างฝีมือของโรลส์-รอยซ์ ผ่านการนำชุดข้อมูลเชิงเทคนิคเหล่านั้น มาตกแต่งบนสิ่งทอของห้องโดยสารภายใน ซึ่งเฉพาะการตกแต่งในส่วน Starlight Headliner เพียงอย่างเดียวก็ใช้เวลานานถึง 90 ชั่วโมง ด้วยการร้อยลูกปัดไฟเบอร์ออพติคกว่า 863 เม็ดโดยช่างฝีมือเพื่อเติมเต็มฝีเข็มการเย็บกว่า 60,000 ครั้ง ส่วนนาฬิกาแบบแบ็กไลท์ที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะ ก็ตกแต่งให้มีความหรูหราไม่แพ้กันด้วยลวดลายที่เพ้นท์โดยช่างฝีมือที่ชวนให้ระลึกถึงความเป็น Home of Rolls-Royce และ อาบู ดาบี มอเตอร์ ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งทั้งสองแห่งถือเป็นแหล่งกำเนิดและจุดสุดท้ายของการสร้างสรรค์ยานยนต์เรธรุ่นนี้
P90252908_lowRes_rolls-royce-motor-ca
มร.ทอร์สเทน มูลเลอร์ ออทวอส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าวว่า “The Home of Rolls-Royce ในเมืองกู้ดวูด เทศมณฑลเวสต์ซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ ถือเป็นต้นกำเนิดของแรงบันดาลใจให้กับศิลปิน เจ้าของผลงาน และช่างฝีมือจำนวนมาก นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ โมฮัมเหม็ด คาเซม มาร่วมสร้างสรรค์รถยนต์รุ่นเรธของเรา ซึ่งจะเป็นยานยนต์ที่หลอมรวมจิตวิญญาณของช่างฝีมือทั้งชายและหญิงแห่งศูนย์กลางความเป็นเลิศแห่งความหรูหราระดับโลกไว้เป็นหนึ่งเดียว”

unnamed (16)โมฮัมเหม็ด คาเซม กล่าวถึงการสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ว่า “ผมรู้สึกสนุกสนานอย่างมากที่ได้เข้าร่วมในแผนงานศิลปะของโรลส์-รอยซ์ นับตั้งแต่การมาเยือนเมืองกู้ดวูด ต้นกำเนิดของแบรนด์ระดับโลกและได้รับแรงบันดาลใจจากเหล่าช่างฝีมือระดับมาสเตอร์ของที่นี่ ไปจนถึงการทำงานร่วมกับทีมนักออกแบบของโรลส์-รอยซ์ในการวางคอนเซ็ปต์สำหรับองค์ประกอบต่าง ๆ ในการทำงานของผมสำหรับยานยนต์เรธรุ่นนี้ และที่สำคัญที่สุดคือ การที่ผมได้สร้างประติมากรรมเหล็กเป็นครั้งแรก ผมรู้สึกยินดีมากที่ทั้งผลงานศิลปะและรถยนต์ได้ถูกนำมาจัดแสดงครั้งแรกที่กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้กับต้นกำเนิดการสร้างสรรค์ผลงาน ก่อนนำไปจัดแสดงที่กรุงอาบู ดาบี ในเดือนถัดไป”

ผลงานใหม่ของ โมฮัมเหม็ด คาเซม ในแผนงานศิลปะของโรลส์-รอยซ์ จะนำมาจัดแสดงที่โชว์รูมโรลส์-รอยซ์ สาขา อาบู ดาบี ตั้งแต่ 27 เมษายน – 25 พฤษภาคม 2560

P90252910_lowRes_mohammed-kazem-s-worช่างฝีมือของโรลส์-รอยซ์ มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานที่แสดงถึงความอุตสาหะขั้นสุดยอดของมนุษย์ เพื่อการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์ในแบบเฉพาะตัว โดยมักเริ่มต้นจากแรงบันดาลใจที่เรียบง่าย อาทิ สีสัน ผลงานศิลปะ หรือแม้แต่เหตุการณ์สำคัญในชีวิตของเจ้าของรถ ดังนั้น จึงไม่มีรถยนต์โรลส์-รอยซ์คันใดที่มีรูปแบบซ้ำหรือมีเอกลักษณ์ที่เหมือนกันเลย เพราะแต่ละคันจะแสดงถึงชีวิตและความหลงใหลในตัวเจ้าของรถแต่ละคน แต่มีสิ่งหนึ่งที่รถยนต์โรลส์-รอยซ์ทุกคันมีร่วมกัน นั่นก็คือ ความเป็นยานยนต์ที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะที่ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา

สำหรับผลงานชิ้นที่ 2 ของซีรี่ส์นี้เป็นภาพยนตร์สั้น ซึ่งแพร่ภาพครั้งแรกผ่านทางเว็บไซต์ www.rolls-roycemotorcars.com ในวันที่ 7 เมษายน 2560 โดยนำผู้ชมไปสัมผัสกับเรื่องราวของ Home of Rolls-Royce ในเมืองกู้ดวูด ประเทศอังกฤษ ศูนย์กลางความเป็นเลิศแห่งความหรูหราระดับโลก

เคต วินสเล็ต นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลอะคาเดมี อะวอร์ด ได้มาทำหน้าที่ให้เสียงพากย์ Spirit of Ecstasy อีกครั้ง เพื่อนำผู้ชมเดินทางสู่สถานที่ซึ่งเหล่านักทำสี ประติมากร นักออกแบบ และวิศวกร ทำงานร่วมกันภายใต้อุดมการณ์เดียวกัน นั่นคือ การนำเสนอความสมบูรณ์แบบครั้งสำคัญของโลก

ภาพยนตร์สั้นชุดแรกเปิดตัวไปเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ซึ่งเป็นการบอกเล่าเรื่องราวว่า เพราะเหตุใด Spirit of Ecstasy จึงมิใช่แค่แนวคิดของโรลส์-รอยซ์ แต่เป็นเครื่องหมายของความเป็นเลิศที่เหนือความเป็นเลิศทั้งมวล และได้กลายเป็นสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่แห่งความเป็นเลิศด้านความหรูหรา ซึ่งเปรียบเสมือนแนวทางการดำเนินงานของแบรนด์ตราบจนทุกวันนี้

P90252909_lowRes_mohammed-kazem-s-worHome of Rolls-Royce คือสถานที่ซึ่งความหรูหราที่แท้จริงบังเกิดขึ้น โดยเลือกสรรเฉพาะวัสดุที่ดีที่สุด เหล่าช่างฝีมือทั้งชายและญิงต่างดำเนินรอยตามปรัชญาของ เซอร์เฮนรี รอยซ์ ผู้ร่วมก่อตั้งโรลส์-รอยซ์ ที่ว่า “นำสิ่งที่ดีที่สุดที่มีอยู่ มาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น หากสิ่งนั้นไม่มีอยู่ จงสร้างมันขึ้นมา” และนี่คือจุดเริ่มต้นของมาตรฐานแห่งความหรูราระดับสูงสุดของโรลส์-รอยซ์ และดำรงอยู่อย่างภาคภูมิมาจวบจนทุกวันนี้ในฐานะต้นกำเนิดแห่งความหรูหราระดับโลกที่แท้จริง

# # #
P90252912_lowRes_house-of-rolls-royce

นิทรรศการของโมฮัมเหม็ด คาเซม กำหดนจัดระหว่างวันที่ 27 เมษายน – 25 พฤษภาคม 2560
เวลา: วันเสาร – พฤหัสฯ เวลา 08.30 – 21.00 น. วันศุกร์ 16.00 – 21.00 น.
สถานที่: โชว์รูมโรลส์-รอยซ์ สาขา อาบู ดาบี
ภาพยนตร์สั้น House of Rolls-Royce เปิดตัว วันที่ 7 เมษายน 2560 เวลา 12.00 น. เว็บไซต์ www.rolls-roycemotorcars.com

P90252911_lowRes_house-of-rolls-royceเกี่ยวกับ แผนงานศิลปะของโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce Art Programme)

ศิลปะและความพยายามอย่างสร้างสรรค์ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานของโรลส์-รอยซ์ และทำให้รถยนต์ทุกคันเปี่ยมด้วยพลังแห่งสุนทรีศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบ โดยผลิตจากวัสดุที่ดีเยี่ยมที่สุดด้วยช่างฝีมือผู้ชำนาญซึ่งอุทิศตนเพื่อการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่งดงามอย่างมีเอกลักษณ์สูงสุด การก่อตั้งแผนงานศิลปะมีจุดประสงค์เพื่อแบ่งปันแนวคิดอันโดดเด่นในด้านความงามของโรลส์-รอยซ์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่วงการศิลปะโลก

แผนงานศิลปะประกอบด้วยผลงานใหม่ที่ถูกมอบหมายในแหล่งกำเนิดของโรลส์-รอยซ์ โดยเป็นการร่วมมือกับองค์กรชั้นนำหลายแห่ง ผ่านการพูดคุยกับทั้งศิลปินดาวรุ่งและศิลปินผู้คร่ำหวอดในวงการ ผู้สนับสนุนงานศิลปะ และผู้รับรองงานศิลปะทั่วโลก โดยเป็นการรวบรวมความคิดสร้างสรรค์และสนับสนุให้ศิลปินเกิดแนวคิดของโครงการใหม่และขยายขอบเขตการทำงานในรูปแบบใหม่ของตัวศิลปินเอง

จวบจนปัจจุบัน โรลส์-รอยซ์ ได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลกและบุคคลสำคัญในวงการศิลปะร่วมสมัยมากแล้วจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงฟู ดอง หยาง, โจเซ พาร์ลา, ซูดาร์ชาน เชตตี้, ไอแซก จูเลียน, อนา มาเรีย ทาวาเรซ, มอร์แกน หว่อง, คาร์ลอส โรลอง ดีซีน, แองเจล่า บูลล็อค, อูโก รอนดินัน, ไมเคิล ซาวรอส, เรจิน่า ซิลเวร่า, และ วิล ค็อตตอน

เกี่ยวกับ โมฮัมเหม็ด คาเซม

โมฮัมเหม็ด คาเซม เกิดที่เมืองดูไบ ในปี ค.ศ. 1969 ได้พัฒนาฝีมือในการทำงานศิลปะมาทั้งในด้านวีดีโอ การถ่ายภาพ และการแสดง เพื่อแสวงหาแนวทางใหม่ในการสร้างความเข้าใจต่อสภาพแวดล้อมและประสบการณ์ของตัวเขา พื้นฐานการทำงานศิลปะของคาเซมเกิดการฝึกฝนเฉกเช่นนักดนตรี ซึ่งเขามีทักษะระดับสูงในการแปลงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง อาทิ แสงและเสียง ให้กลายเป็นผลงานศิลปะที่เป็นรูปธรรม ด้วยการกำหนดสถานะของตัวเองในผลงานที่สร้างขึ้น คาเซมใช้แนวคิดด้านลักษณะทางภูมิศาสตร์ สาระของวัสดุ และองค์ประกอบ มาเป็นวิธีการในการนำเสนออัตวิสัยที่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคสมัยใหม่ที่รวดเร็วในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศขึ้น

คาเซมยังเคยเป็นสมาชิกของสมาคมวิจิตรศิลป์เอมิเรตส์ (Emirates Fine Arts Society) ในช่วงที่เริ่มทำงานและได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในห้าศิลปินชาวเอมิเรตส์ผู้ยิ่งใหญ่ร่วมกับ ฮาสซัน ชาริฟ และ อับดุลลาห์ อัล ซาดี ในฐานะศิลปินแถวหน้าในด้านการทำงานศิลปะเชิงแนวคิดโดยใช้สหวิทยาการ โดยในปี ค.ศ. 2012 คาเซมสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิจิตรศิลป์จากมหาวิทยาลัยศิลปะฟิลาเดลเฟีย คาเซมได้เข้าร่วมจัดแสดงผลงานในนิทรรศการประจำปีของสมาคมวิจิตรศิลป์เอมิเรตส์ที่เมืองชาร์จาห์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 จวบจนปัจจุบัน รวมถึงนิทรรศการที่จัดขึ้นทุก 2 ปีในเมืองชาร์จาห์ (Sharjah Biennial) อีกหลายรายการ และได้รับรางวัลชนะเลิศจากการจัดแสดงผลงานในปี ค.ศ. 1999 และ 2003 ต่อมา คาเซมจึงได้รับเชิญให้เป็นผู้ร่วมจัดงาน Sharjah Biennial ในปี ค.ศ. 2007

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ คาเซมได้เข้าร่วมงานจัดแสดงผลงานแบบกลุ่มหลายงานทั่วโลก อาทิ Mori Art Museum ที่ญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 2012, Boghossian Foundation ที่เบลเยี่ยมในปี ค.ศ.2013, Gwangju Museum of Art ที่เกาหลีใต้ในปี ค.ศ.2014 และ 2014 edition of the Fotofest Biennial ที่เมืองฮุสตัน และได้จัดแสดงผลงานในงาน Venice Biennale ถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกในปี ค.ศ. 2009 ซึ่งเป็นการจัดนิทรรศการแบบกลุ่ม ผู้รับผิดชอบคือแคเธอรีน เดวิด ต่อมาในปี ค.ศ. 2013 คาเซมได้เป็นตัวแทนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จัดแสดงผลงานศิลปะสื่อวีดีโอในชื่อ Walking on Water ผู้รับผิดชอบคือรีม เฟดดา และครั้งที่ 3 ในปี ค.ศ. 2015 จัดแสดงผลงานชุด Tongue series ชื่อ 1980 – Today: Exhibitions in the UAE ผู้รับผิดชอบคือเชกา ฮัว อัล คาซีมี โดยในเดือนพฤศจิกายน 2014 คาเซมได้จัดแสดงผลงานเดี่ยว Sound of Objects ที่ Gallery Isabelle van den Eynde ในกรุงดูไบ และผลงาน Memorising By Means Of Observing ที่ Taymour Grahne Gallery ในกรุงนิวยอร์ก

ในเดือนมีนาคมปีต่อมา คาเซมได้รับหน้าที่เป็นผู้ร่วมรับผิดชอบของ Public Privacy ซึ่งเป็นงานจัดแสดงผลงานแบบกลุ่มที่นำเสนอผลงานของศิลปินดาวรุ่งของเอมิเรตส์ที่ Gallery of Light ของโรงละคร DUCTAC

ผลงานของคาเซมได้รับการเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งที่ British Museum กรุงลอนดอน, Solomon R. Guggenheim Museum กรงุนิวยอร์ก, Guggenheim Abu Dhabi, Mathaf: Arab Museum of Modern Art กรุงโอฮา, Ullens Center for Contemporary Art กรุงปักกิ่ง และ Barjeel Art Foundation เมืองชาร์จาห์ และอีกหลายแห่งทั่วโลก

%d bloggers like this: